“ดร.มหานิยม”นำหนังสือร้องเรียนรองเจ้าคณะอำเภอไทรโยคเข้าอนุกมธ.ศาสนาขอวิสุงคามสีมาวัดเก่าสมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่2

วันที่  16 ตุลาคม 2567 เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุม CA 303 อาคารรัฐสภา เกียกกาย สามเสน กรุงเทพฯ   “ดร.นิยม เวชกามา” อดีต สส.สกลนคร เขต 2 พรรคเพื่อไทย ในฐานะอนุกรรมมาธิการศาสนา ได้เข้าร่วมประชุมคณะอนุกรรมาธิการศาสนา โดยได้นำหนังสือร้องเรียนของ “พระครูกาญจนกิจธำรง” รองเจ้าคณะอำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี เรื่องขอออกโฉนดวัดแม่น้ำน้อย ตำบลไทรโยค อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งวัดตั้งมาแล้วตั้งแต่ พ.ศ.2481 เนื่องจากไม่มีเอกสารสิทธิ์เพราะเป็นพื้นที่ทับซ้อนพื้นที่ป่าและอุทยานแห่งชาติ ต่อ “นายวีระพล จิตสัมฤทธิ์” สส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานอนุกรรมมาธิการศาสนาและประธานที่ประชุม และหนังสือร้องเรียนของ “พระสมชัย มินเจียรนัย” เจ้าอาวาสวัดบ้านทุ่งก้างย่าง หมู่ 3 ตำบลไทรโยค อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ที่ขอตั้งวัดและวิสุงคมสีมา มาแล้ว 16 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2531 จนบัดนี้ยังไม่สามารถตั้งได้เนื่องจากมีปัญหาข้อขัดแย้งเขตที่ดิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ คณะอนุกรรมมาธิการศาสนา ได้พิจารณาในวาระอีกหลายเรื่อง เช่น วัดเขาใหญ่ หมู่ 7 บ้านท่าม่วง ตำบลเขาพระ อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นวัดที่ก่อตั้งถูกต้องตามกฏหมายตั้งแต่ปี พ.ศ.2460 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ตั้งแต่ปี พ.ศ.2503 แต่ต่อมาปีพ.ศ. 2510 ทางราชการได้ออกรังวัดเป็นที่ นสล. ทับที่วัดจึงเกิดเป็นกรณีพิพาทกันขึ้น โดยที่ประชุมให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ไปยื่นเรื่องขอออกโฉนดที่ดินตามหลักฐานราชการต่อที่ดินจังหวัดสุพรรณบุรี

 ต่อมาเป็นวาระกรณีพิพาทระหว่าง วัดบ้านคางฮุง หมู่ที่ 1 และวัดเทวาพิทักษ์หมู่บ้าน (หมู่บ้านเดียวกัน) ตำบลผักแว่น อำเภอจังหาร จังหวัดร้อยเอ็ด โดยคณะกรรมาธิการ ให้ถือเอาคำพิพากษาศาลจังหวัดร้อยเอ็ด ที่พิพากษาให้แยกเป็นสองวัด และมีการขอตั้งวัดป่าภูริทัตตะ บ้านไร่พัฒนา หมู่ 16 ตำบลดูกอึ่ง อำเภอหนองฮีจังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งขอเปลี่ยนเปลี่ยนแปลงผู้ขอตั้งเป็นแม่ชีจันทราฤกษ์ยามเพราะมีความผิดพลาดในชื่อผู้ขอตั้งแต่แรก จึงให้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ไปแก้ไขให้ถูกต้องต่อไป

Leave a Reply