พุทธะอิสระ!! ฟาด “เจ้าคุณต้น” สุ่มเสี่ยงบิดเบือนพระธรรมวินัย พร้อมตอก “มส.-พศ.” ปล่อยไว้ได้อย่างไร!!

วันที่ ๒๔  พ.ย. ๖๗ เมื่อวันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ที่ผ่านมา พุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม ได้โพสต์เฟชบุ๊ค กล่าวหา “เจ้าคุณต้น” พระราชญาณวัชรชิโนภาส แห่งธรรมนาวาวังว่า เนื้อหาหนังสือบรรยายธรรมสุ่มเสี่ยงบิดเบือนพระธรรมวินัย พร้อมถามว่าทำไมมหาเถรสมาคม ผู้ปกครองสงฆ์ และเจ้าหน้าที่สำนักงานพุทธ ปล่อยให้มีการเผยแพร่เนื้อหาที่บิดเบือนเช่นนี้ได้ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

ขณะที่มีหนังสือธรรมของผู้ที่ห่มเหลือง โกนหัว เที่ยวไปไล่แจกกันไปทั่วแทบทุกวัด ซึ่งเนื้อหาในการอธิบายธรรมของผู้บรรยายก็สุ่มเสี่ยงที่จะบิดเบือนพระธรรมวินัย

อย่างเช่น กรณีคำสอนที่ว่า มี ๓๑ ภูมิ แบ่งเป็นหมวดหมู่ได้เป็นภูมิน้อยภูมิใหญ่ ผู้บรรยายก็พรรณนาว่า
ภูมิน้อย ก็คือ พวกเหลือบ ริ้น ไร และไล่มาจนถึงภูมิใหญ่ เช่น สัตว์ที่มีอัตภาพร่างกายใหญ่โต เช่น ช้าง วัว ควาย เป็นต้นประมาณนี้

พุทธะอิสระอ่านแล้วอยากจะเหนื่อย ทำไมมหาเถรสมาคม ผู้ปกครองหมู่สงฆ์ และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธ ถึงได้ปล่อยให้เผยแพร่เนื้อหาของพระธรรมคำสั่งสอนที่บิดเบือนเช่นนี้ออกมาได้
และเพื่อให้เข้าใจในภูมิที่ถูกต้อง จึงขอนำเอาภูมิทั้ง ๓๑ ที่พระพุทธเจ้าทรงสอน ว่าจะเหมือนกับภูมิของศาสดาต้นเขาสอนไหม

พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๑ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๓ [ฉบับมหาจุฬาฯ] ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค ว่าด้วยเรื่อง ภูมินานัตตญาณนิทเทส แสดงภูมินานัตตญาณ  ปัญญาในการกำหนดธรรม ๔ ประการ ชื่อว่าภูมินานัตตญาณ เป็นอย่างไร  คือ ภูมิ ๔ ประการ ได้แก่

๑. กามาวจรภูมิ (ชั้นที่สัตว์ท่องเที่ยวอยู่ในกาม)๒. รูปาวจรภูมิ (ชั้นที่สัตว์ท่องเที่ยวอยู่ในรูป)๓. อรูปาวจรภูมิ (ชั้นที่สัตว์ท่องเที่ยวอยู่ในอรูป)๔. อปริยาปันนภูมิ (ชั้นที่ไม่นับเนื่องในภูมิ ๓ หมายถึงโลกุตตรภูมิ)
กามาวจรภูมิ เป็นอย่างไร คือ ขันธ์ ธาตุ อายตนะ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณที่ท่องเที่ยวอยู่ในภูมินี้ นับเนื่องในภูมินี้ ในระหว่างนี้ คือเบื้องล่างกำหนดเอาอเวจีนรกเป็นที่สุด เบื้องบนกำหนดเอาเหล่าเทพชั้นปรนิมมิตวสวัตดีเป็นที่สุด นี้ชื่อว่ากามาวจรภูมิ องค์พระบรมศาสดาทรงตรัสสอนเรื่องภูมิทั้ง ๓๑ เอาไว้โดยแบ่งเป็น ๓ ก็คือ   กามาวจรภูมิ ๑๑ อันมี- จาตุมหาราชิกาภูมิ – ดาวดึงส์ภูมิ – ยามาภูมิ – ดุสิตาภูมิ – นิมมานรดีภูมิ – ปรนิมมิตวสวัตตีภูมิ – มนุษยภูมิ  อบายภูมิ ๔ อันมี- นรกภูมิ – เปตภูมิ – อสุรกายภูมิ – เดรัจฉานภูมิ รวมเรียกว่า กามาวจรภูมิ

ขั้นต่อมา คือ รูปพรหมภูมิ ๑๖ ได้แก่
– พรหมปาริสัชชาภูมิ – พรหมปุโรหิตาภูมิ – มหาพรหมาภูมิ – ปริตรตาภาภูมิ- อัปปมาณาภาภูมิ- อาภัสสราภูมิ- ปริตตสุภาภูมิ – อัปปมาณสุภาภูมิ – สุภกิณหาภูมิ – เวหปผลาภูมิ – อสัญญสัตตาภูมิ – อวิหาสุทธาวาสภูมิ – อตัปปาสุทธาวาสภูมิ – สุทัสสาสุทธาวาสภูมิ – สุทัสสีสุทธาวาสภูมิ – อกนิฏฐาสุทธาวาสภูมิ

การที่จักเข้าถึงรูปพรหมทั้ง ๑๖ ชั้นนี้ได้ต้องบำเพ็ญสมาธิจนถึงองค์ฌานทั้ง ๔ และผู้ที่บรรลุธรรมในชั้นอนาคามีผลเท่านั้น และถือว่าเป็นภูมิที่อยู่ของผู้มีกาย จิต สัมผัสที่ละเอียดกว่าชั้นกามาวจรภูมิ
ภูมิสุดท้าย คือ อรูปพรหม ๔- อากาสานัญจายตนภูมิ – วิญญาณัญจายตนภูมิ – อากิญจัญญายตนภูมิ – เนวสัญญานาสัญญายตนภูมิ

รูปพรหมทั้ง ๑๖ ชั้นว่าละเอียด ประณีตกว่ากามาวจรภูมิแล้ว อรูปพรหม ๔ ชั้น ดังกล่าวมายิ่งละเอียดกว่า
ส่วนที่ศาสดาต้นสอนว่า ภูมิน้อย คือ เหลือบ ริ้น มดปลวก ภูมิใหญ่ คือ สัตว์ที่มีอัตภาพร่างกายที่สูงใหญ่ เช่น ช้าง เป็นต้น

นี่ก็แสดงว่า ศาสดาต้นคงจะจดจำภพภูมิที่ตนเกิดมา จึงได้มโนเอาเองว่าเป็นภูมิน้อยภูมิใหญ่ ดังที่เขาสอนสาวกของตน ช่างน่าสงสารสาวกของต้นยิ่งนักว่า เขาจักเลือกไปเกิดเป็นอะไรในภูมิน้อยภูมิใหญ่ที่ต้นสอน

Leave a Reply