เปิดประวัติพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) วัดหลิงกวง วันที่ 23 พ.ย. 67 ทีมโฆษกกระทรวงวัฒนธรรม เปิดประวัติ พระเขี้ยวแก้ว หรือ พระทาฐธาตุ คือ พระทันตธาตุส่วนที่เป็นเขี้ยวของพระพุทธเจ้า จัดเป็นพระบรมสารีริกธาตุที่ไม่แยกกระจัดกระจาย องค์มีลักษณะแข็งแกร่งรวมกันแน่น ซึ่งตามพระไตรปิฎกภาษาบาลี กล่าวถึงมหาปุริสลักขณะ 32 ประการ มีข้อความตอนหนึ่งกล่าวถึง ลักษณะของพระทาฐะหรือเขี้ยวของบุคคลผู้มีลักษณะแห่งมหาบุรุษว่า “เขี้ยวพระทนต์ทั้งสี่งามบริสุทธิ์” ข้อมูลนี้จึงทำให้เชื่อกันว่า พระเขี้ยวแก้วมีทั้งหมด 4 องค์ ประกอบด้วย พระเขี้ยวแก้วเบื้องบนขวา ท้าวสักกะอัญเชิญไปประดิษฐาน ณ พระจุฬามณีเจดีย์ บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ พระเขี้ยวแก้วเบื้องต่ำขวา ประดิษฐานที่แคว้นกลิงคะ แล้วถูกอัญเชิญไปประดิษฐาน ณ ลังกาทวีป (วัดพระเขี้ยวแก้ว ประเทศศรีลังกาในปัจจุบัน) พระเขี้ยวแก้วเบื้องบนซ้าย ประดิษฐาน ณ แคว้นคันธาระ ต่อมาถูกอัญเชิญไปประดิษฐานไว้ที่เมืองฉางอัน ประเทศจีน (ซีอาน) โดยพระภิกษุฟาเหียนเมื่อคราวจาริกไปสืบพระศาสนายังอินเดีย ปัจจุบันพระเขี้ยวแก้วองค์นี้ถูกอัญเชิญไปประดิษฐาน ณ วัดหลิงกวง กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน และพระเขี้ยวแก้วเบื้องต่ำซ้าย ประดิษฐานในภพพญานาค วัดหลิงกวงสร้างขึ้นในรัชศกต้าลี่ (ค.ศ. 766 – 779) ราชวงศ์ถัง ต่อมามีการสร้างพระเจดีย์เจาเซียนและในปี ค.ศ. 1071 ได้อัญเชิญพระเขี้ยวแก้วมาประดิษฐาน ต่อมาพระเจดีย์เจาเซียนถูกทำลายจากเหตุการณ์ความวุ่นวายในปี ค.ศ. 1900 ถัดมาปี ค.ศ. 1901คณะสงฆ์ค้นพบกล่องศิลาบรรจุพระเขี้ยวแก้ว เวลาต่อมาปี ค.ศ. 1957 มีการบูรณะพระเจดีย์และพุทธสมาคมจีนได้ริเริ่มการสร้างพระเจดีย์ใหม่กระทั่งแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1964 และอัญเชิญพระเขี้ยวแก้วมาประดิษฐานไว้ภายในพระสถูปทองคำประดับอัญมณีในพระเจดีย์ ณ วัดหลิงกวง ซึ่งพระเขี้ยวแก้วองค์นี้มีความยาวประมาณ 1 นิ้ว และเชื่อกันว่าผู้ที่มองเห็นองค์พระเขี้ยวแก้วจะเห็นสีต่างกันตามกรรมส่วนบุคคล เมื่อปี พ.ศ.2545 รัฐบาลจีนได้อนุญาตให้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) มาประดิษฐานในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ณ พุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 75 พรรษา 5 ธันวาคม 2545 ซึ่งถือเป็น 1 ใน 6 ครั้งที่ประดิษฐานนอกประเทศจีน ถือเป็นสิริมงคลยิ่งต่อพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทยและชาวจีนในประเทศไทย ในวาระครบรอบ 50 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ในปี 2568 รัฐบาลจีนให้รัฐบาลไทยอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ พระเขี้ยวแก้ว จากวัดหลิงกวง มาประดิษฐานที่กรุงเทพฯ เป็นการชั่วคราว ณ ท้องสนามหลวง เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม2567 เปิดให้ประชาชนเข้าสักการะตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม 2567 ถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 ขณะที่เมื่อวานนี้ที่ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล “รศ.ชูศักดิ์ ศิรินิล” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการประสานงานการดำเนินโครงการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากสาธารณรัฐประชาชนจีน มาประดิษฐานในราชอาณาจักรไทยเป็นการชั่วคราว มี “นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร” ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุมดังกล่าวด้วย นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ด้วยคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ในคราวประชุม ครั้งที่ 3/2567 เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2567 ได้มีมติเห็นชอบให้รับโครงการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) มาประดิษฐานในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติฯ และนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินโครงการฯ ในภาพรวม และดำเนินการเตรียมความพร้อมของสถานที่และการบริหารจัดการในภาพรวม ณ ท้องสนามหลวง “ทั้งนี้ รัฐบาลไทยและรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนได้เห็นชอบร่วมกัน ในการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากวัดหลิงกวง กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน มาประดิษฐาน ณ ท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานคร เป็นการชั่วคราว เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และในโอกาสการครบรอบ 50 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – จีน ในปี 2568 ในการนี้ การจัดพิธีการที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากสาธารณรัฐประชาชนจีน มาประดิษฐานในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว กำหนดพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ประดิษฐานที่มณฑปท้องสนามหลวง ในวันที่ 4 ธันวาคม 2567 เวลา 18.00 น. โดยมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส และมีสมเด็จพระราชาคณะ ซึ่งกรรมการมหาเถรสมาคมมอบหมาย เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ทั้งนี้ ในวันดังกล่าว เวลา 17.00 น. รัฐบาลได้จัดให้มีริ้วขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จำนวน 19 ริ้วขบวน จากลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ไปยังท้องสนามหลวง ในส่วนของการจัดงาน ได้จัดให้มีนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จำนวน 5 โซน ประกอบด้วย โซนที่ 1 “ดับขันธปรินิพพาน มกุฎพันธนเจดียสถาน” นำเสนอเรื่องราวพุทธประวัติในการประสูติ ตรัสรู้ และเสด็จปรินิพพาน โดยเน้นในช่วงพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน โซนที่ 2 “พุทธะบารมีพระสรีระธาตุ” นำเสนอเรื่องราวประวัติของพระสรีระธาตุหรือพระบรมสารีริกธาตุที่ได้อัญเชิญไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ของโลก โซนที่ 3 “พระเขี้ยวแก้ว” นำเสนอเรื่องราวประวัติ ความสำคัญ และความเป็นมาของพระบรมสารีริกธาตุ(พระเขี้ยวแก้ว) โซนที่ 4 “ใต้ร่มเศวตฉัตร ทศมรัช พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” เป็นนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยที่ทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภกและมีพระราชศรัทธาในพระบวรพุทธศาสนา สืบสานราชประเพณีสืบเนื่องมาจนเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ โซนที่ 5 “ความสัมพันธ์ ไทย-จีน” นำเสนอเรื่องราวและเหตุการณ์สำคัญที่สร้างเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและประเทศจีนในด้านต่าง ๆ สะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น ส่งเสริมคำว่า “จีนไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” ในโอกาสนี้ ได้เปิดให้ประชาชนเข้าสักการะพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ระหว่างวันที่ 5 ธันวาคม 2567 – 14 กุมภาพันธ์ 2568 กำหนดเวลาตั้งแต่ 07.00 – 20.00 น. โดยเจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมดอกไม้สักการะสำหรับประชาชน จึงขอเชิญชวนประชาชนกราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) เพื่อความเป็นสิริมงคลในช่วงเวลาดังกล่าวต่อไป จำนวนผู้ชม : 1,175 Leave a ReplyFacebook Comments More Articles By the same author พระถาม “พิธา” นโยบายสถาบัน ทำไม!! คิดถึงขั้นนั้น? อุทัย มณี มี.ค. 17, 2024 วันที่ 17 มี.ค. 67 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล… เปิดวาระการประชุม “สคทช.” และ “อนุกมธ.ศาสนา” เดินหน้าแก้ปัญหาที่ดินวัดใน “เขตที่ดินรัฐ” อุทัย มณี ธ.ค. 13, 2024 วันที่ 13 ธันวาคม 2567 มีการแชร์ระเบียบวาระการประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติในวันอังคารที่… บันทึกความจำช่วยน้ำท่วมรัฐมอญ “เผชิญชายถือปืนขอค้นกลางป่า” (1) อุทัย มณี ก.ย. 09, 2019 ผมเคยโพสไว้ในเฟชบุ๊คส่วนตัวว่า จะเล่าเรื่องไปช่วยน้ำท่วมรัฐมอญ… พระจบ!! ลูกศิษย์ไม่จบ..เครือข่ายชาวพุทธฯ บุกสำนักงานพุทธขอดูเอกสารเหตุปลด 3 เจ้าคณะจังหวัด อุทัย มณี ต.ค. 20, 2021 วันพุธที่ 20 ตุลาคม พ.ศ.2564 เวลา 15.00 น. ที่อาคารหลวงพ่อวัดปากน้ำ… ผู้ว่าฯสุราษฎร์ธานียก “โคก หนอง นา บ้านสวนป่าดอนสัก” ต้นแบบศูนย์เรียนรู้ทฤษฎีใหม่ อุทัย มณี ต.ค. 08, 2022 ผู้ว่าฯสุราษฎร์ ชื่นชม อำเภอดอนสัก น้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า… มาถูกทาง! พระธรรมจาริกจากสงเคราะห์ สู่การพัฒนาบนที่ราบสูง รอบหน้านิมนต์เชิญขึ้นเขาด้วยกัน อุทัย มณี ธ.ค. 13, 2022 วันที่ 13 ธันวาคม 2565 ตามที่พระพรหมเสนาบดี กรรมการมหาเถรสมาคม… ความหิวรอไม่ได้!! คณะสงฆ์น่าน ตั้งโรงครัวช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมแล้ว อุทัย มณี ส.ค. 22, 2024 วันที่ 22 สิงหาคม 2567 จากเหตุการณ์ฝนตกหนักติดต่อกัน 2 วัน ระหว่างวันที่… ธรรมกายเอาด้วย! แปลงทุ่งสวรรค์ตะวันใส เป็นแปลงผักเกษตรอินทรีย์สู้ภัยโควิด อุทัย มณี เม.ย. 28, 2020 วันที่ 28 เม.ย.2563 เพจลูกศิษย์วัดพระธรรมกายทั่วโลก ได้โพสต์คลิปและข้อความว่า… ‘เศรษฐี’ ในพระไตรปิฎก ความร่ำรวยที่อุปถัมภ์พระพุทธศาสนา อุทัย มณี ส.ค. 02, 2023 คำว่า ‘เศรษฐี’ ตรงกับภาษาสันสกฤตว่า ‘เศรษฐิน’ หมายความว่า… Related Articles From the same category ‘บิ๊กตู่’ชวนสวดมนต์ข้ามปีนานาชาติ สักการะพระพุทธรูปสำคัญจาก13ปท. เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ… “มจร” ปฐมนิเทศเตรียมมอบทุนแก่นิสิตป.ตรี -เอก จำนวน 670 ทุน วันอังคารที่ 11 กรกฎาคม 2566 ณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย… วธ.นำเทียนพรรษาไปถวายพระอารามหลวง 10 วัด พร้อมเชิญชวนชาวพุทธรักษาศีล ลด ละ เลิกอบายมุขตลอดพรรษา วธ.นำเทียนพรรษาไปถวายพระอารามหลวง 10 วัด พร้อมเชิญชวนชาวพุทธรักษาศีล… ขอเชิญร่วมสร้างพระอุโบสถหลังแรกวัดเทพสรธรรมาราม (บาย ตึ๊ก เจีย) ต.บางใหม่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี วัดเทพสรธรรมารามเดิมที่เป็น "สถานปฏิบัติธรรมบายตึ๊กเจีย"… ส.ส.นิยม เวชกามา “กัดไม่ปล่อย” คดีเงินทอนวัด ซัดนายกรัฐมนตรีอาจผิด ม.157 พร้อมตั้งคำถามอีก 33 วัดฟ้องเมื่อไร?? วันที่ 25 กันยายน 2564 เมื่อวันที่ ๑๔ กันยายนที่ผ่านมา นายนิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ได้ตั้งกระทู้ถามพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีถึงเรื่องที่มีประกาศราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๕ ตอนที่ ๑๕ ข ราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๖๑ เรื่องถอดถอนสมณศักดิ์ ของพระเถระทั้ง ๗ รูป เป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๙ วรรคสอง ทำให้ไม่มีผลบังคับตามความในมาตรา ๕ วรรคแรก ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ และยังเข้าองค์ประกอบตามบทบัญญัติมาตรา ๑๖๐ (๕) ของรัฐธรรมนูญว่าด้วยคุณสมบัติของรัฐมนตรีในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยมีรายละเอียดของกระทู้ถามดังนี้…
Leave a Reply