วันที่ 11 ธันวาคม 67  หลังจากมีปรากฎเอกสารจากบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ถึง ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสมุทรปราการยกเลิกให้บริการห้องรับรองพระภิกษุสามเณร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในหมู่คณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนทั่วไป ถึงเหตุผลทำไมต้องยกเลิกหรือขอคืนห้อง เนื่องจากมองว่าหากพระภิกษุสามเณรหรือพระผู้ใหญ่ จำเป็นต้องให้มีห้องรับรองสำหรับปฎิบัติศาสนกิจ

ล่าสุดวันนี้ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ขอชี้แจงกรณีสื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่ข่าว ทสภ. ยกเลิกการใช้งานห้องรับรองพระภิกษุและสามเณร บริเวณชั้น 3 อาคารผู้โดยสาร นั้น ทสภ. ขอชี้แจงว่า ทสภ. มีความจำเป็นในการดำเนินการดังกล่าว เนื่องจาก ทสภ. ได้ปรับพื้นที่จุดตรวจค้นผู้โดยสารระหว่างประเทศ ชั้น 4 เพื่อเพิ่มศักยภาพในการรองรับผู้โดยสาร

และผู้ใช้บริการที่เพิ่มมากขึ้น โดยได้มีการขยายพื้นที่จุดตรวจค้น Fast Track Zone 4 บริเวณเคาน์เตอร์เช็กอิน Row W

ชั้น 4 ซึ่งครอบคลุมไปยังพื้นที่ร้านสะดวกซื้อ ส่งผลให้ ทสภ. พิจารณาย้ายร้านสะดวกซื้อและจัดสรรพื้นที่ทดแทน เป็นพื้นที่ห้องรับรอง CIP 4 – 6 ชั้น 3 ซึ่งเดิมห้องรับรอง CIP 6 เป็นพื้นที่ห้องรับรองพระภิกษุและสามเณร โดย ทสภ. ได้พิจารณาจัดสรรพื้นที่ให้มีความเหมาะสมและอยู่ในโซนพื้นที่เดียวกันกับร้านค้าอื่นๆ โดยคำนึงถึงความสะดวกของผู้ใช้บริการเป็นสำคัญ

ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องยกเลิกการให้บริการของห้องรับรองพระภิกษุฯ เดิม (ห้องรับรอง CIP 6) อย่างไรก็ตาม ทสภ. ได้จัดพื้นที่ห้องรับรอง CIP 3 เป็นห้องรับรองพระภิกษุและสามเณร ทดแทน และได้เปิดใช้เป็นห้องรับรองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่ง ทสภ. ได้มีการแจ้งให้สำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดสมุทรปราการทราบในเบื้องต้นแล้ว

ทั้งนี้ ทสภ. ตระหนักถึงความสำคัญในการให้บริการและอำนวยความสะดวกแด่พระภิกษุสงฆ์ ซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาของพุทธศาสนิกชน โดยนอกจากจัดให้มีห้องรับรองพระภิกษุฯ บริเวณชั้น 3 แล้ว ทสภ. ยังจัดให้มีห้องรับรองพระภิกษุฯ

บริเวณชั้น 2 พื้นที่ผู้โดยสารภายในประเทศ และได้จัดห้องสวดมนต์สำหรับพระภิกษุฯ และพุทธศาสนิกชน บริเวณชั้น 2

และ ชั้น 4 ภายในอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1) ด้วย

ด้าน นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ  ได้กล่าวกรณีดังกล่าวว่า  เรื่องห้องรับรองพระภิกษุ-สามเณร สนามบินสุวรรณภูมิ อาจเข้าใจกันคลาดเคลื่อน ความจริงระหว่างสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติกับสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ เรามีการประสานกันต่อเนื่อง ห้องสำหรับรับรองพระภิกษุมี 2 ห้อง ทั้งขาเข้าและขาออก เมื่อเดือนตุลาคมทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้รับหนังสือขอคืนห้องจริง เพื่อดำเนินการปรับปรุง แต่ไม่ได้ยกเลิก

“สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ทำได้ทำหนังสือตอบไปแล้วว่า ไม่สามารถยกเลิกได้ เนื่องจากจำเป็นต้องมีห้องรับรองสำหรับพระภิกษุ-สามเณรในสนามบิน เพื่อปฎิบัติศาสนกิจ  พร้อมกันนี้ท่านผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ตั้งงบประมาณจ้างเจ้าหน้าที่ไว้จำนวน 8 ท่าน เพื่อสนับการดูแลอำนวยความสะดวกให้กับพระภิกษุ-สามเณรที่จะให้ห้องรับรองตลอด 24 ชั่วโมง..”