เจาะงบประมาณดูแลพระสงฆ์ 5 ชายแดนใต้

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มีวิสัยทัศน์ ว่า “เป็นองค์กรขับเคลื่อนกิจการพระพุทธศาสนาสู่ความมั่นคง สังคมดำรงศีลธรรม นำสันติสุขอยางยั่งยืน”  พร้อมมีพันธกิจ 5 ประการเช่น เสริมสร้างสถาบันและกิจการพระพุทธศาสนามีความมั่นคงยังยืน จัดการศึกษาสงฆ์และเผยแผ่ศาสนาให้มีความรู้คู่คุณธรรมดำเนินการให้พุทธมณฑลเป็นศูนย์กลางพุทธศาสนาโลก เป็นต้น

“ผู้เขียน” ไปดูตัวเลขงบประมาณที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้รับจัดสรรย้อนหลัง 3 ปี ตั้งแต่ปี 66 -68 มี ดังนี้ ในปีงบประมาณ 66 ได้รับจัดสรร  4,216 ล้านบาท, ในปีงบประมาณ 67 ได้รับ 4,859 ล้านบาท และในปีงบประมาณ 68 ได้รับจัดสรรเพิ่มขึ้นเป็น  5,460 ล้านบาท เปรียบเทียบงบประมาณในปี 2567 และในปี 2568 ได้รับงบเพิ่มขึ้น 601 ล้านบาท

“ผู้เขียน” จะไม่เจาะลึกว่างบประมาณเหล่านี้เป็นรายจ่ายประจำมีอะไรบ้าง หรือไปใช้ทำโครงการอะไรบ้าง เพียงแต่บอกตัวเลขคร่าว ๆว่าเป็นงบจ่ายประจำ 4,640 งบลงทุน 819 บาท และ เฉพาะงบนิตยภัต  1,235 บาท สำหรับงบ “นิตยภัต” ตอนนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนายังขาดสภาพคล่อง ยังไม่ได้จ่ายให้กับพระภิกษุสงฆ์ และพยายามของบกลาง อีกประมาณ 162 ล้านบาท

“ผู้เขียน” สำรวจคร่าว ๆ เม็ดเงิน รายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 เฉพาะเจาะลงไปที่พื้นที่ชายแดนใต้ ซึ่งคำว่า “ชายแดนใต้” คงจะหมายถึง 5 จังหวัดชายแดนใต้ ประกอบด้วย ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สตูล และ สงขลา  มีงบประมาณไปดูแลกิจการพระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์อย่างไรบ้าง

เฉพาะในหมวดงบอุดหนุน ระบุตัวเลขสำหรับงบประมาณที่ดูแลพระสงฆ์ชายแดนใต้ และรวมทั้งงบพิเศษอื่น ไว้ มีดังนี้

@เงินอุดหนุนพิเศษพระภิกษุในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 116 ล้านบาท

@เงินอุดหนุดส่งเสริมความมั่นคงของสถาบันพระพุทธศาสนาชายแดนใต้ 11 ล้านบาท

@ค่าตอบแทนพิเศษรายเดือนผู้ปฎิบัติงานในพื้นที่ชายแดนใต้ 126,000 บาท

@เงินอุดหนุดรักษาสภาพภูมิทัศน์และรักษาทรัพย์สินพุทธอุทยานเขากง จ.นราธิวาส 4 แสนบาท

@เงินอุดหนุนการส่งเสริมสังคมสันติสุขอยู่เย็นเป็นสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ 2 ล้านบาท

@ สร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้นำศาสนา 4 แสนบาท

รวมงบประมาณที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้รับจัดสรรและไปดูแลพระภิกษุชายแดนใต้ภายใน 5 จังหวัดที่กล่าวมา ทั้งหมด 130 ล้านบาท 

“ผู้เขียน” ติดตามข่าว “ชูศักดิ์ ศิรินิล” มอบหมายให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติไปดูแลพระภิกษุสงฆ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิดหลัง จากเกิดเหตุการณ์ “โจรใต้” ลอบยิง “สามเณร” มรณภาพ

“ผู้เขียน” ไม่อยากจะบอกว่า “ล่มปากอ่าว”

ขนาด “ชูศักดิ์ ศิรินิล” เดินทางไปมอบนโยบายถึงสำนักงานใหญ่พุทธมณฑล 8 ข้อ และตอนหลังไปแถลงที่ทำเนียบเป็นข่าวใหญ่โต กำชับในรายละเอียดเพิ่ม 8 ข้อ พร้อม “สั่งการ” เป็นเอกสาร ให้รายงานเป็นระยะ ๆ ผ่านตัวรัฐมนตรี หรือ ผู้ช่วยรัฐมนตรี

ถามว่า “ผลดำเนินการ” มีอะไรบ้างที่เป็น “รูปธรรม”  เคยได้รับรายงานอะไรบ้างที่เป็น “เปเปอร์”

เพราะเท่าที่่ทราบ..ไม่มี

เชื่อเถอะ!! ปัญหาภาคใต้พระสงฆ์ “ถูกฆ่า” ชาวพุทธ “ถูกยิง”  ไม่ว่า “รัฐบาล” หรือ “คณะสงฆ์” จะทำกิจกรรมเหมือน “ไฟใหม้ฟาง” มอบเงิน มอบพวงหรีด ลงไปให้กำลังใจ..จบภารกิจ

ขณะที่ “ฝ่ายมั่นคง” พูดเป็นคำเดียว “อย่าหลงกล” กลุ่มผู้ไม่หวังดี ยุยงสร้างความแตกแยก ระหว่างชาวพุทธและชาวมุสลิม

บทเรียนตั้งแต่ “พระครูประโชติรัตนานุรักษ์” เจ้าอาวาสวัดรัตนานุภาพ เจ้าคณะอำเภอสุไหงปาดี จ.นราธิวาส ถูกโจรร้าย 10 คนบุกยิ่งตายคาวัด เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2562

ชาวพุทธหรือคณะสงฆ์เห็นอะไรบ้าง ที่หน่วยงานที่รับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง หรือมหาเถรสมาคม คิดหรือลงมือทำ  เพื่อสร้างความปลอดภัยแบบยั่งยืนและมั่นคง ให้คณะสงฆ์และชาวพุทธใน 5 จังหวัดชายแดนใต้..

Leave a Reply