วันที่ 22 กรกฏาคม 2568 มหาโจร ๕ จำพวก ภิกษุทั้งหลายมหาโจรผู้ประกอบด้วยองค์ห้า ย่อมมีโอกาสตัดช่องก็ได้ ย่องเบาก็ได้ ปล้นสดมภ์ก็ได้ ตีชิงก็ได้.
องค์ห้าอย่างไรกันเล่า ? องค์ห้าในกรณีนี้ คือ ๑) มหาโจรได้อาศัยที่ซ่องสุม ๒) ได้อาศัยที่กำบัง ๓) ได้อาศัยพึ่งพิงผู้มีอำนาจ ๔) ได้อาศัยการโปรยทรัพย์ ๕) เที่ยวไปคนเดียว.
๑) มหาโจรได้อาศัยที่ซ่องสุม เป็นอย่างไร ? ภิกษุทั้งหลาย
ในกรณีนี้ คือ มหาโจรได้อาศัยเกาะแก่งในแม่น้ำ หรือได้อาศัยหุบเหวตามภูเขา นี้แล เรียกว่า มหาโจรได้อาศัยที่ซ่องสุม.
๒) มหาโจรได้อาศัยที่กำบัง เป็นอย่างไร ?
ภิกษุทั้งหลายในกรณีนี้ คือ มหาโจรได้อาศัยพงหญ้าหรือป่ารก ได้อาศัยเนินดินหรือราวป่าใหญ่เพื่อเป็นที่กำบัง นี้แล เรียกว่า มหาโจรได้อาศัยที่กำบัง.
๓) มหาโจรได้อาศัยพึ่งพิงผู้มีอำนาจ เป็นอย่างไร ?
ภิกษุทั้งหลายในกรณีนี้ คือ มหาโจรได้อาศัยพระราชาหรืออำมาตย์ผู้ใหญ่ของพระราชา เป็นที่พึ่งว่า “ถ้าใครจักโจทเราด้วยเรื่องอะไร ๆ พระราชาหรืออำมาตย์ผู้ใหญ่ของพระราชาเหล่านี้ จักช่วยโต้แทนเรา” ดังนี้. ครั้นใครโจทมหาโจรนั้นด้วยเรื่องอะไร ๆ ขึ้นจริง, พระราชาหรืออำมาตย์ของพระราชาเหล่านั้น ก็ช่วยโต้แทนให้จริง. นี้แล เรียกว่า มหาโจรได้อาศัยพึ่งพิงผู้มีอำนาจ.
๔) มหาโจรได้อาศัยการโปรยทรัพย์ เป็นอย่างไร ?
ภิกษุทั้งหลายในกรณีนี้ คือ มหาโจรเป็นคนมั่งคั่ง มีทรัพย์สมบัติมาก เขามีแผนการไว้ว่า “ถ้าใครจักโจทเราด้วยเรื่องอะไร ๆ เราจะปิดปากมันเสียด้วยทรัพย์สมบัตินี้” ดังนี้. ครั้นใครโจทมหาโจรนั้นด้วยเรื่องอะไร ๆ ขึ้นจริง, เขาก็ปิดปากคนเหล่านั้นเสียด้วยทรัพย์สมบัตินั้น. นี้แล เรียกว่า มหาโจรได้อาศัยการโปรยทรัพย์.
๕) มหาโจรเที่ยวไปคนเดียว เป็นอย่างไร ? ภิกษุทั้งหลาย
ในกรณีนี้ คือ มหาโจรประพฤติตนเป็นคนไม่มีเหย้าเรือน เที่ยวไปแต่ผู้เดียว. ที่ทำเช่นนี้เพราะเหตุไร ? เพราะมหาโจรนั้นคิดว่า “มนต์ลับของตนอย่าได้แพร่งพรายไปภายนอกเลย” ดังนี้. นี้แล เรียกว่า มหาโจรเที่ยวไปคนเดียว
ภิกษุทั้งหลาย มหาโจรผู้ประกอบด้วยองค์ห้าเหล่านี้แล้ว ย่อมมีโอกาสตัดช่องก็ได้ ย่องเบาก็ได้ ปล้นสดมภ์ก็ได้ ตีชิงก็ได้. ข้อนี้ฉันใด ;
ภิกษุทั้งหลาย ข้อนี้ก็ฉันนั้น : ภิกษุลามก ผู้ประกอบด้วยเหตุห้าอย่าง ย่อมทำตนให้ถูกขุดราก ให้ถูกกำจัดความดี เป็นผู้มีความชั่วติดตัว ผู้รู้พากันติเตียน ได้ประสพสิ่งมิใช่บุญเป็นอันมาก. เหตุห้าอย่างอะไรกันเล่า ? เหตุห้าอย่างในกรณีนี้ คือ
๑) ภิกษุลามก ได้อาศัยที่ซ่องสุม
๒) ได้อาศัยที่กำบัง
๓) ได้อาศัยพึ่งพิงผู้มีอำนาจ
๔) ได้อาศัยการโปรยทรัพย์
๕) เที่ยวไปคนเดียว.
๑) ภิกษุลามกได้อาศัยที่ซ่องสุม เป็นอย่างไร ? ภิกษุทั้งหลาย
ในกรณีนี้ คือ ภิกษุลามกเป็นผู้ประกอบด้วยกายกรรมอันคดโกง, เป็นผู้ประกอบด้วยวจีกรรมอันคดโกง, เป็นผู้ประกอบด้วยมโนกรรมอันคดโกง นี้แล เรียกว่า ภิกษุลามกได้อาศัยที่ซ่องสุม.
๒) ภิกษุลามกได้อาศัยที่กำบัง เป็นอย่างไร ? ภิกษุทั้งหลาย
ในกรณีนี้ คือ ภิกษุลามกเป็นคนมีมิจฉาทิฏฐิ ประกอบด้วยทิฏฐิอันแล่นดิ่ง ไปจับเอาปลายสุดโต่ง (แห่งความเห็นทั้งปวง) นี้แล เรียกว่า ภิกษุลามกได้อาศัยที่กำบัง.
๓) ภิกษุลามกได้อาศัยพึ่งพิงผู้มีอำนาจ เป็นอย่างไร ?
ภิกษุทั้งหลายในกรณีนี้ คือ ภิกษุลามกได้อาศัยพระราชาหรืออำมาตย์ผู้ใหญ่ของพระราชาเป็นที่พึ่งว่า “ถ้าใครจักโจทเราด้วยเรื่องอะไร ๆ, พระราชาหรืออำมาตย์ผู้ใหญ่ของพระราชา เหล่านี้ จักช่วยโต้แทนเรา” ดังนี้. ครั้นใครโจทภิกษุลามกนั้นด้วยเรื่องอะไร ๆ ขึ้นจริง, พระราชาหรืออำมาตย์ผู้ใหญ่ของพระราชาเหล่านั้น ก็ช่วยโต้แทนให้จริง. นี้แล เรียกว่า ภิกษุลามกได้อาศัยพึ่งพิงผู้มีอำนาจ.
๔) ภิกษุลามกได้อาศัยการโปรยทรัพย์ เป็นอย่างไร ?
ภิกษุทั้งหลายในกรณีนี้ คือ ภิกษุลามกเป็นผู้ร่ำรวยลาภด้วยจีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และ คิลานปัจจัยเภสัชบริกขาร เธอมีแผนการไว้ว่า “ถ้าใครจักโจทเราด้วยเรื่องอะไร ๆ เราจักปิดปากเขาเสียด้วยลาภนี้” ดังนี้. ครั้นใครโจทภิกษุลามกนั้นด้วยเรื่องอะไร ๆ ขึ้นจริง, เธอก็ปิดปากคนเหล่านั้นเสียด้วยลาภนั้น. นี้แล เรียกว่า ภิกษุลามกได้อาศัยการโปรยทรัพย์.
๕) ภิกษุลามกเที่ยวไปคนเดียว เป็นอย่างไร ? ภิกษุทั้งหลาย
ในกรณีนี้ คือ ภิกษุลามกเลี่ยงไปอยู่เสียตามชนบทปลายแดนแต่ผู้เดียว เธอเข้าไปสู่สกุลทั้งหลายในชนบท ( ที่ไร้การศึกษา ) นั้น ๆ ย่อมได้ลาภ นี้แล เรียกว่า ภิกษุ ลามกเที่ยวไปคนเดียว.
ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุลามก ผู้ประกอบด้วยเหตุห้าอย่างเหล่านี้แล้ว ย่อมทำตนให้ถูกขุดราก ให้ถูกกำจัดความดี เป็นผู้มีความชั่วติดตัว ผู้รู้พากันติเตียน ได้ประสพสิ่งมิใช่บุญเป็นอันมาก อย่างนี้แล.
ที่มา.. บาลี ปญฺจก. อํ. ๒๒/๑๔๕/๑๐๓.
Leave a Reply