วันที่ 17 ตุลาคม 2568 หลังจากวานนี้เว๊บไซต์ข่าว “Thebuddh” ได้เสนอข่าวข้อร้องเรียนค่าตอบแทนรายเดือนของ “เจ้าสำนักศาสนศึกษา” จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ยังไม่ได้รับค่าตอบแทนเดือน ๆ ละ 22,000 บาทนั่น โดยผู้ร้องระบุว่า ตลอดปีงบประมาณ 2568 ทั้ง 4 ไตรมาส 12 เดือนได้รับเพียงเดือนเดียวซึ่งเป็นข้อถกเถียงอย่างกว้างขวาง เนื่องจากบางสำนักศาสนศึกษาได้รับแล้ว แต่บางสำนักยังไม่ได้รับ หรือรับไม่ครบถ้วน
หลังจากเสนอข่าวออกไปมี “แหล่งข่าว” ส่งข้อมูลคำสั่งแม่กองธรรม พร้อมกับกล่าวว่า “ค่าตอบแทนเจ้าสำนักศาสนศึกษา ได้ดำเนินการจ่ายแล้วบางส่วน ที่อยู่ไตรมาส 1-3 แต่ไตรมาส 4 อยู่ในระหว่างดำเนินการ งบประมาณมีครบไม่ติดขัดอะไร แต่เหตุที่ล่าช้าเกิดจากเอกสาร ที่ส่งมามีผิดมีจำนวนมาก บางสำนักต้องส่งกลับเพื่อแก้ไขก่อน และประการหนึ่ง บางสำนักศาสนศึกษาจ่ายได้แค่ 4 เดือน (เฉพาะไตรมาส 4 เดือน มิถุนายน กรกฏาคม สิงหาคม กันยายน) เท่านั้น เพราะติดข้อกฏหมาย อีกบางส่วนจ่ายได้ครบ 12 เดือน ซึ่งรายละเอียดข้อกฎหมายระบุไว้..”
พร้อมกับระบุต่ออีกว่า เจ้าสำนักศาสนศึกษาจำนวน 1,745 รูป จักได้รับค่าตอบแทนหรือไม่เพียงไร และจักได้รับเป็นจำนวนกี่เดือนนั่น ต้องเป็นไปตาม พ.ร.บ.การศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ. 2562 และข้อบังคับของ กศป. พ.ศ. 2563 ข้อ 58 ซึ่งเป็นบทเฉพาะกาล ทั้งนี้ให้เป็นไปตามรายละเอียดที่ปรากฎในคำสั่งแม่กองธรรมสนามหลวง เรื่องแต่งตั้งเจ้าหน้าที่การศึกษาพระปริยัติธรรม ตำแหน่งเจ้าสำนักศาสนศึกษา ซึ่งสั่ง ณ วันที่ 16 มิถุนายน 2568
สำหรับคำสั่งแม่กองธรรมสนามหลวง ที่ลงนามโดย สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ แม่กองธรรมสนามหลวง เรื่อง แต่งตั้งเจ้าหน้าที่การศึกษาพระปริยัติธรรมตำแหน่งเจ้าสำนักศาสนศึกษา มีรายละเอียดดังนี้ อาศัยอำนาจตามความในข้อ 30 แห่งข้อบังคับคณะกรรมการการศึกษาพระปริยัติธรรม ว่าด้วยการบริหารงานบุคคลการศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ. 2563 โดยความเห็นชอบตามมติ ที่ประชุม อบป.ครั้งที่ 1/2568 วันที่ 4 มิถุนายน 2568 และโดยความเห็นชอบตามมติที่ประชุม กบป. ครั้งที่ 1/2568 วันที่ 9 มิถุนายน 2568 จึงแต่งตั้งผู้มีรายชื่อตามเที่เจ้าคณะจังหวัดและรองแม่กองธรรมสนามหลวงประจำหน ลงลายมือชื่อรับรองความถูกต้องของเอกสารแล้ว จำนวน 1,745 รูป ตามบัญชีแนบท้ายคำสั่งนี้ เป็นเจ้าหน้าที่การศึกษาพระปริยัติธรรม (จศป.) ตำแหน่ง เจ้าสำนักศาสนศึกษา โดยกำหนดค่าตอบแทน เป็น 4 กรณีดังนี้
1.กรณีที่ผู้ได้รับแต่งตั้งตามคำสั่งนี้ ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสภายในกรอบเวลาตามข้อบังคับคณะกรรมการการศึกษาพระปริยัติธรรม ว่าด้วยการบริหารงานบุคคลลการศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ. 2563 ข้อ 58 กล่าวคือ ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส ก่อนวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2563 และวัดที่ผู้ ได้รับแต่งตั้งตามคำสั่งนี้ ได้ดำรงดำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสนั้น เป็นวัดที่ได้รับใบอนุญาตให้จัดตั้งเป็น สำนักศาสนศึกษา ก่อนวันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2562ตามความในมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติ การศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ.2562 หรือก่อนวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2563 ตามข้อผ่อนปรนใน มาตรา 32 กรณีนี้ให้ได้รับค่าตอบแทนนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2567 เป็นต้นมา
2.กรณีที่ผู้ได้รับแต่งตั้งตามคำสั่งนี้ ตำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสตามความในข้อ 1. หรือ ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสในช่วงเวลาของการแต่งตั้ง ระหว่างวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2563 ถึงวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2567 และได้รับแต่งตั้งตามคำสั่งนี้ โดยอนุมัติของ กบป. ตามข้อบังคับ คณะกรรมการการศีกษาพระปริยัติธรรมว่าด้วยการบริหารงานบุคคลการศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ. 2563 ข้อ 23 หรือโดยที่ อบป.กำหนด โดยความเห็นชอบของ กบป. ตามข้อบังคับคณะกรรมการ การศึกษาพระปริยัติธรรม ว่าด้วยการบริหารงานบุคคลการศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ. 2563 ข้อ24 แต่วัดที่ผู้ได้รับแต่งตั้งตามคำสั่งนี้ ได้ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสนั้น เป็นวัดที่ได้รับใบอนุญาตให้จัดตั้ง เป็นสำนักศาสนศึกษา ในช่วงระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2563 ถึงวันที่ 25มิถุนายน พ.ศ. 2567 กรณีนี้ให้ได้รับค่าตอบแทนตั้งแต่เดือนที่ได้รับแต่งตั้งตามคำสั่งนี้ เป็นต้นไป
3. กรณีที่ผู้ได้รับแต่งตั้งตามคำสั่งนี้ ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสตามความในข้อ2. แต่ดำรงตำแหน่งในวัดที่มีการจัดการเรียนการสอนพระปริยัติธรรมมแผนกธรรมและหรือแผนกบาลี โดยที่วัดดังกล่าวยังไม่ได้รับใบอนุญาติให้จัดตั้งเป็นสำนักศาสนศึกษา กรณีนี้ให้ได้รับค่าตอบแทน เริ่มตั้งแต่เดือนที่ได้รับใบอนุญาตให้จัดตั้งเป็นสำนักศาสนศึกษาตามข้อบังคับคณะกรรมการการศึกษาพระปริยัติธรรม ว่าด้วยการจัดตั้งสถานเศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ. 2567 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2567 เป็นต้นไป
4.กรณีที่ผู้ได้รับแต่งตั้งตามคำสั่งนี้ มีชื่อเป็นผู้ดำรงตำแหน่งเจ้าสำนักศาสนศึกษา มากกว่า 1 แห่งหรือดำรงตำแหน่ง จศป. ในส่วนงานอื่นด้วย ให้ได้รับค่าตอบแทนแพียงตำแหน่งเดียว


Leave a Reply