ปรากฎการณ์ของกลุ่ม “คณะปฎิสังขรณ์การพระศาสนาใหม่” หรือกลุ่มยุวสงฆ์ปลดแอก มิใช่ปรากฎการณ์การใหม่ในสังคมไทยและสังคมสงฆ์
เหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นแล้วเมื่อปีพุทธศักราช 2477 มีกลุ่มยุวสงฆ์ฝ่ายมหานิกายประมาณ 300 รูปจากวัดต่าง ๆ ในเขตพระนครและธนบุรี เช่นวัด พระเชตุพน ฯ วัดอรุณ วัดสุทัศน์ นัดประชุมกันที่บ้านคหบดีเขตบางรักชื่อบ้าน “ภัทรวิธม” และเรียกกลุ่มตนเองว่า “คณะปฎิสังขรณ์การพระศาสนา”
คณะปฎิสังขรณ์การพระศาสนา กลุ่มนี้มีความเห็นร่วมกันในการปฎิรูปการปกครองคณะสงฆ์ให้เสมอภาคตามแนวประชาธิปไตยโดยมีวัตถุประสงค์ 3 ประการ คือ
1.เนื่องจากการปกครองคณะสงฆ์ให้ความเสมอภาคแก่คณะสงฆ์ไม่เท่าเทียมกัน กล่าวคือ เจ้าคณะธรรมยุตปกครองคณะสงฆ์มหานิกายได้ แต่เจ้าคณะมหานิกายปครองคณะสงฆ์ธรรมยุตไม่ได้ จึงขอให้รัฐบาลและมหาเถรสมาคมแก้ไขเปลี่ยนแปลงพระราชบัญญัติการปกครองคณะสงฆ์ ร.ศ.121 ให้มีการบริหารด้วยสิทธิเสมอกัน
2.เพื่อให้มีการร่วมสมานสังวาสในระหว่างคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกายและธรรมยุติกนิกาย อาทิ ให้มีการร่วมอุโบสถสังฆกรรมด้วยกันได้
3. ตำแหน่งหน้าที่ทั้งในการศึกษาและปกครอง หรืออำนาจสูงสุดในการปกครองสังฆมณฑลพระภิกษุในสิทธิมหานิกายต้องมีสิทธิในตำแหน่งนั่นด้วย

เมื่อมองจากการเคลื่อนไหวทั้ง 3 ประเด็นนี้แล้ว ต้นตอล้วนเกิดจากพระราชบัญญัติการปกครองคณะสงฆ์ ร.ศ.121 แทบทั้งสิ้นที่ฝ่ายพระมหานิกายมองว่า คณะสงฆ์ธรรมยุติกนิกายเอาเปรียบฝ่ายมหานิกายซึ่งมีประชากรสงฆ์มากกว่า โดยเฉพาะตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช ที่มีการวางสืบทอดกันเป็นช่วง ๆ มิให้ฝ่ายมหานิกายได้ขึ้นมาครอง
การเคลื่อนไหวของคณะปฎิสังขรณ์การพระศาสนาเมื่อปี 2477 รัฐบาลให้การสนับสนุนการเคลื่อนไหวและจัดการแก้ไขพระราชบัญญัติการปกครองคณะสงฆ์ร.ศ.121 จึงเป็นที่มาของ พ.ร.บ.การปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ. 2484
เมื่อเราศึกษาเนื้อหาของ พ.ร.บ. การปกครองคณสงฆ์ ร.ศ. 121 พอสรุปได้สังเขปว่า
1.พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้ง ถอดถอน สมณศักดิ์ และตำแหน่งบริหารตั้งแต่ระดับพระราชาคณะจังหวัดขึ้นไป
2.มหาเถรสมาคมปกครองและบริการกิจการคณะสงฆ์สนองพระปรมาภิไธยขององค์พระมหากษัตริย์
3.หน่วยงานของรัฐ โดยเฉพาะกระทรวงธรรมการ ควบคุม วางระเบียบเกี่ยวกับการบริหารทรัพย์สินของวัดและศาสนสมบัติทั้งปวง กระทรวงมหาดไทยดูแลการตั้งวัดและศาสนาสถาน เป็นต้น
4.มีบทลงโทษพระภิกษุสงฆ์ เช่น พระภิกษุที่ประพฤติล่วงละเมิดพระธรรมวินัยเป็นอาจิณ ไม่สังกัดอยู่ในวัดใดวัดหนึ่ง หรือไม่มีวัดที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ให้พระภิกษุรูปนั่นสละสมณเพศตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนด
ปัจจุบันกลุ่มยุวสงฆ์ปลดแอกหรือคณะปฎิสังขรณ์การพระศาสนาใหม่เรียกร้อง 2 ประเด็นหลัก คือ
1.เพื่อทุกศาสนา
– แยกศาสนาออกจากรัฐ
– หยุดใช้ศาสนาเป็นเครืองมือ “สร้างความแตกแยก”
– หยุดใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือ “โฆษณาชวนเชื่อ”
2.เพื่อพุทธศาสนา
– ปฎิรูปโครงสร้างอำนาจสงฆ์และร่าง พ.ร.บ.คณะสงฆ์ใหม่ให้สอดคล้องกับพระธรรมวินัย
– สิทธิพลเมืองของพระภิกษุ -สามเณรตามวิถีประชาธิปไตย


Leave a Reply