วันที่ 31 พ.ค. 64  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แผนการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา ฉบับที่ 1 พ.ศ. 2560-2564 จะจบสิ้นลงในวันที่ 30 กันยายน 2564 นี้ตามแผนปฎิบัติการตามงบประมาณรายปีของแผ่นดิน  ในขณะที่การดำเนินการตามแผนการปฎิรูปกิจการพระพุทธศาสนา 13+1 ได้สะดุดลงในบางจังหวัด อันเนื่องจากคณะสงฆ์ยังไม่ได้มีการแต่งตั้งเจ้าคณะภาคยังเป็นทางการ

          ปัจจุบันหลังจากมีพระบัญชาแต่งตั้งเจ้าคณะภาคครบทั้งหมดทั้งคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกายและคณะธรรมยุตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

          “พระเทพเวที” เจ้าคณะภาค 6 ในฐานะหนึ่งในกรรมการแผนการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา ได้แจ้งว่า ในวันที่ 5 มิถุนายน 2564 นี้ เวลา 13.00-15.00 น. จะมีการประชุมคณะสงฆ์ภาค 6 ประกอบด้วย เจ้าคณะภาค/เจ้าคณะจังหวัด / รองเจ้าคณะจังหวัดและเลขานุการ ทุกระดับ

         สำหรับเนื้อหาการประชุม จะประกอบด้วยหลักการ 2 ประเด็นใหญ่  คือ

  1. การกำชับ ติดตามและประเมินผลงานการปฏิบัติตามกฎหมาย/ กฏ/ ข้อบังคับ/ระเบียบ/ คำสั่ง/ มติ/ ประกาศ ของมหาเถรสมาคม ประกอบด้วย…..

      1.1 ระเบียบมหาเถรสมาคมว่าด้วย”กองทุนวัดช่วยวัด”

      1.2 ระเบียบมหาเถรสมาคมว่าด้วยพระวินยาธิการ

      1.3 มติมหาเถรสมาคมว่าด้วยการใช้รถยนต์/ รถจักรยานยนต์ของพระภิกษุสามเณร

      1.4 มติมหาเถรสมาคมว่าด้วยมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของCOVID-19 สำหรับพระภิกษุสามเณร

      1.5 มติมหาเถรสมาคมว่าด้วยกรณีพระภิกษุอยู่ในที่พักสงฆ์ที่ยังไม่ได้รับอนุญาตและการบิดเบือนคำสอนในพระพุทธศาสนา

2. การกำชับ /ติดตามและประเมินผลโครงการตามแผนการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา ฉบับที่ 1 (2560-2564) ก่อนเตรียมการสำหรับแผนปฏิบัติการฉบับที่ 2 (2565-2569) ประกอบด้วยโครงการ 13+1 ดังนี้….

        2.1 โครงการจัดทำฐานข้อมูลพระภิกษุสามเณร(ฝ่ายปกครอง)

        2.2  โครงการพัฒนาระบบบริหารตามหลักธรรมาภิบาล(ฝ่ายปกครอง)

        2.3  โครงการพัฒนาขีดความสามารถศาสนบุคคล(ฝ่ายปกครอง)

        2.4  โครงการยกระดับการศึกษาพระปริยัติธรรม(ฝ่ายศาสนศึกษา)

        2.5  โครงการส่งเสริมนวัตกรรมเชิงพุทธ(ฝ่ายศาสนศึกษา)

        2.6  โครงการขยายโอกาสการศึกษาสู่สังคม(ฝ่ายศึกษาสงเคราะห์)

        2.7  โครงการพัฒนาองค์ความรู้ด้านพระพุทธศาสนา(ฝ่ายศึกษาสงเคราะห์)

        2.8  โครงการยกระดับหมู่บ้านรักษาศีล 5(ฝ่ายเผยแผ่)

        2.9  โครงการวิปัสสนากัมมัฏฐาน(ฝ่ายเผยแผ่)

        2.10 โครงการบริหารจัดการศาสนสมบัติ/ ระบบการเงิน/ การบัญชี(ฝ่ายสาธารณูปการ)

        2.11 โครงการวัด/ประชา/ รัฐ สร้างสุข ด้วยกิจกรรม 5 ส.  (ฝ่าสาธารณูปการ)

        2.12 โครงการส่งเสริมความร่วมมือภาคีเครือข่าย (ฝ่ายสาธารณสงเคราะห์)

        2.13 โครงการสาธารณสงเคราะห์เพื่อสังคมที่ยั่งยืน (ฝ่ายสาธารณสงเคราะห์)

        2. 14 โครงการพัฒนาพุทธมณฑลจังหวัด (คณะกรรมการที่จังหวัดแต่งตั้งขึ้น)

          พระเทพเวที กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า   สำหรับแผนการปฎิรูปกิจการพระพุทธศาสนาฉบับที่สอง ที่หลายคนถามเข้ามาว่า ยังเดินหน้าต่อไปอีกหรือไม่ ณ ตอนนี้เรายังเดินหน้าต่อไป ตอนนี้คิด จัดทำแผนเรียบร้อยแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดในแผน 2 ในปี 2565-2569 จะเน้นหนักไปกับการเผยแผ่กิจการพระพุทธศาสนาทั้งคันถะธุระและวิปัสสนาธุระ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ  ความจริงในแผน 1 เราทำสำเร็จหลายเรื่องที่เห็นได้ชัดคือ พ.ร.บ.การศึกษาพระปริยัติธรรม ที่ประกอบด้วย 4 แท่ง คือ บาลี,นักธรรม,ปริยัติสามัญและพระปริยัตินิเทศฯ ตอนนี้โครงสร้างเสร็จหมดแล้ว อัตรากำลัง งบประมาณ คณะสงฆ์เสนอรัฐบาลไปหมดแล้ว วันที่ 1 ตุลาคมที่จะถึงนี้ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากรัฐบาลแน่นอน

         “ในส่วนของภาค 6 ที่จะประชุมกันในวันที่ 5 ที่จะถึงนี้นอกจากเราจะทบทวนการขับเคลื่อนตามแผนที่ 1 แล้วจะมีการพูดถึงประเด็นที่จะทำในแผน 2  ด้วย ” พระเทพเวทีกล่าว