“เจ้าคุณเสียดายแดด” ที่ปรึกษาปลัด มท. ขยายผล “โคก หนอง นา” ตามหลัก “บวร” สู่พุทธอารยเกษตร

วันที่ 9 สิงหาคม 65  พระปัญญาวชิรโมลี เจ้าอาวาสวัดป่าศรีแสงธรรม ตำบลห้วยยาง อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย หรือเจ้าของสมญานาม “เจ้าคุณเสียดายแดด” พระนักพัฒนาที่เสียสละและสนับสนุนการดำเนินงานพัฒนาชุมชนท้องถิ่นมาโดยตลอด ตามหลัก “บวร” หรือบ้าน วัด โรงเรียน ราชการ ได้เมตตานำเสนอถึงการขับเคลื่อนโครงการและนิทรรศการ “โคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง” วัดป่าศรีแสงธรรม ซึ่งกำลังอยู่ในความสนใจจากทั่วสารทิศและถนนทุกสาย ที่มุ่งหน้ามาศึกษาเรียนรู้เทคโนโลยี นวัตกรรมด้านพลังงานและการเกษตร ในพุทธสถานที่รู้จักกันในนาม “โคกอีโด่ยวัลเล่ย์”

“เจ้าคุณเสียดายแดด” ได้ขับเคลื่อนการพัฒนาวัด พัฒนาโรงเรียน และพัฒนาชุมชน จนเป็นต้นแบบในด้านการพึ่งพาตนเอง ในเรื่องของน้ำ พลังงาน และอาหาร ผ่านโครงการพระราชทานโคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง ที่นำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ตามพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งป้ายนิทรรศการพระราชกรณียกิจ และภาพลายฝีพระหัตถ์ถูกนำมาจารึกลงในแผ่นสแตนเลส เพื่อให้คนที่มาเยี่ยมชมหรือมาศึกษาดูงานและญาติโยมที่มาทำบุญที่วัดป่าศรีแสงธรรม จะได้มีแหล่งเรียนรู้ที่เป็นองค์ความรู้ในการพึ่งพาตนเอง ด้วยฐานการเรียนรู้ในการดำเนินชีวิตพิชิตความยากจน ฐานการเรียนรู้เป็นป้ายนิทรรศการ และสถานที่จริงในพื้นที่แปลงโคก หนอง นา เช่น ฐานบ้านดิน ฐานโซลาร์เซลล์เพื่อการเกษตร ฐานปุ๋ยหมักไม่พลิกกลับกอง ปุ๋ยหมักแห้ง (โบกาฉิ) ฐานคนเอาถ่าน ฐานคนหัวเห็ด ฐานคนรักษ์สุขภาพ ฐานคนรักษ์ดิน ฐานคนรักษ์น้ำ ฐานคนรักษ์ป่า และงานวิจัยด้านพลังงาน

นอกจากนั้น ยังได้มีการสานข่าย ขยายผลการดำเนินงานร่วมกับ พระอาจารย์ทองปาน จารุวัณโณ เจ้าอาวาสวัดภูตะคาม อำเภอส่องดาว จังหวัดสกลนคร พระเถระผู้เปี่ยมด้วยเมตตา ที่ได้บริจาคช่วยเหลือโรงพยาบาล โรงเรียน วัดต่าง ๆ ตลอดมา รวมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท และยังมีอีกหลายโรงพยาบาลที่รอรับการสนับสนุนอาคารอีกจำนวนมาก ซึ่งพระปัญญาวชิรโมลี ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ถือโอกาสไปกราบพระอาจารย์ทองปาน จารุวัณโณ ที่วัดภูตะคาม และชมสวน “พุทธอารยเกษตร” บนเนื้อที่ 80 กว่าไร่ โดยพระอาจารย์ทองปาน นั้น มีความสนใจที่จะทำ “โคก หนอง นา” เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารให้แก่โรงพยาบาลและโรงเรียน ให้สามารถลดค่าใช้จ่าย และนำเงินไปพัฒนาอย่างอื่น

สำหรับการเดินทางในครั้งนี้ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกู่แก้ว ได้กราบนิมนต์พระปัญญาวชิรโมลี ไปติดตั้งโซลาร์เซลล์ ขนาด 112 กิโลวัตต์ เพื่อประหยัดค่าไฟฟ้าเดือนละ 70,000 กว่าบาท และยังถือโอกาสเยี่ยมชมโครงการของพระเถระที่อำเภอสว่างแดนดิน ที่ทำแปลงเกษตรที่น่าทึ่งจำนวนมาก โดยเฉพาะผักหวานป่า ที่จะนำมาขยายเป็นโมเดลที่ “โคกอีโด่ยวัลเลย์” ต่อไปด้วย

โอกาสนี้ พระปัญญาวชิรโมลี ยังได้รับความเมตตาจากพระเถระและครูบาอาจารย์ ซึ่งเป็นต้นตำหรับในการสาธารณะสงเคราะห์ และมีทั้งระบบไฟฟ้าเคลื่อนที่ ระบบประปาเคลื่อนที่ สุขาเคลื่อนที่ ที่จะมาดูแนวคิว วิธีการพุทธเกษตรไปพัฒนาต่อยอดเป็นการตอบแทนคุณแผ่นดิน ในพื้นที่วัดป่าศรีแสงธรรม อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ต่อไป

ท้ายที่สุด ยังได้รับความเมตตาจากพระเถระและครูบาอาจารย์ ที่ได้มอบผักหวานป่าให้ 300 กว่าต้น และถ่ายทอดความรู้และแนวคิดการจัดการพื้นที่เนินดินเป็นกอง ๆ ซึ่งภาษาอีสานเรียกว่า “โพน” หรือจอมปลวกขนาดใหญ่ที่ชาวบ้านปรับให้ราบ เพื่อทำเป็นแปลงพื้นที่เพาะปลูก แต่ปัจจุบัน เราจะสามารถสร้างโพนขึ้นเองได้ โดยไม่ต้องพึ่งปลวก ด้วยการจัดการกองดินให้เป็น “โพนทอง” ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมของ “พุทธอารยเกษตร” ด้วย

 

Leave a Reply