ตร.ตามจับแล้ว! 8 ชายชุดดำนำบุกยึด “วัดหลวงพ่อเงิน”ทำร้ายกรรมการวัด-คนงาน ย้ำรู้ตัวผู้ว่าจ้างแล้ว??

วันที่ 12 เม.ย. 66  วานนี้ พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 , พล.ต.ต.สารนัย คงเมือง ผบก.สส.ภ.6 , พล.ต.ต.กำธร จันที ผบก.ภ.จว.พิจิตร ได้ร่วมกันแถลงข่าวที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร ถึงการจับกุม 8 ชายชุดดำ ที่เข้าไปสมทบกับชาวบ้านอีกเกือบ 100 คน ปิดวัดหิรัญญารามหรือ วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน เมื่อ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา

เพื่อร่วมกันขัดขวางเจ้าพนักงานบังคับคดีจังหวัดพิจิตร ไม้ให้นำหมายบังคับคดีจากศาลจังหวัดพิจิตร เพื่อให้ผู้ครอบครองทรัพย์ส่งมอบทรัพย์สินบนกุฏิไม้ ให้กับพระครูพิสุทธิวรากร เจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม ตามคำพิพากษา แต่ชาวบ้านบาง โดยกลุ่มชายชุดดำ เป็นการ์ดคอยดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับกลุ่มชาวบ้าน จนเจ้าพนักงานบังคับคดีจึงเดินทางกลับ

ต่อมาในช่วงเช้าของวันที่ 6 เม.ย.66 เวลาประมาณ 08.00 น. ได้มีรถยนต์เข้ามาที่วัดจำนวน 3 คัน คือ 1. รถยนต์เก๋ง โตโยต้า รุ่น วีออส สีเทา ทะเบียน 1 ขธ 8026 กรุงเทพฯ ซึ่งมีคนนั่งในรถ 4 คน 2. รถยนต์เก๋ง มิตซูบิชิ รุ่น มิราจ ทะเบียน กฉ 3306 ตาก คนนั่งในรถ 4 คน 3. รถยนต์เก๋ง นิสสัน รุ่น เซฟิโร ทะเบียน กพ 7284 ลพบุรี คนนั่งในรถ 5 คน

เมื่อรถทั้ง 3 คันดังกล่าวเข้ามาจอดในวัดแล้ว ได้มีกลุ่มชายชุดดำลงจากรถเข้าไปฉุดกระชากนายกิตติรัฐ จูสุวรรณ์ หนึ่งในกรรมการวัด ลงมาจากกุฏิ 3 ฤดู ก่อนลงมือทำร้าย รวมทั้งได้นำตัวคนงานฝ่ายเจ้าอาวาสมารวมกันที่เต็นท์หน้ากุฏิ 3 ฤดู เพราะมีเรื่องโกรธเคืองกันในอดีต

ขณะนั้นนายอำนาจ พรายพร หรือ“อุ๋ย” กรรมการวัดอีกคนหนึ่ง ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาในวัดทำท่าเหมือนจะขี่จักรยานยนต์ฝ่าฝูงชนที่บุกเข้ายึดวัดอยู่ จนมีปากเสียงทะเลาะกัน จึงทำให้นายประวิทย์ ภู่ปาน หรือ“หลิว” 1 ในกลุ่มชายชุดดำ เดินเข้าไปถามว่าเป็นใคร นายอำนาจ หรือ“อุ๋ย” พูดว่า..อย่ามาเสือก นายประวิทย์ หรือ“หลิว” จึงได้ชกที่หน้าของ นายอำนาจ หรือ“อุ๋ย” 1 ครั้ง จนเกิดการต่อสู้ชกสวนกลับไป

จากนั้นได้เกิดชุลมุน เจ้าพนักงานตำรวจ ที่อยู่ในเหตุการณ์จึงได้เข้าระงับเหตุ และนำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล และเดินทางมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน

จากการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ณ ขณะนี้สามารถออกหมายจับได้ 9 คน ซึ่งก่อนหน้านี้แกนนำที่เป็นผู้หญิงหัวโจกคนสำคัญรู้ว่าถูกออกหมายจับ ได้เข้ามอบตัวที่ สภ.โพทะเล เพื่อขอใช้และได้สิทธิ์ในการประกันตัวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ส่วนชายชุดดำทั้ง 8 คน เมื่อปฏิบัติการเสร็จก็แยกย้ายกันหนี ตำรวจพิจิตรและตำรวจจากภาค 6 จึงสืบสวนและสามารถจับกุมได้ยกทีม ก่อนนำมาสอบสวน ทั้งหมดให้การรับสารภาพ แต่ผู้ว่าจ้างเป็นใครนั้นตำรวจขอปกปิดไว้ก่อนเพื่อประโยชน์กับรูปคดี

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหาร่วมกันบุกรุกเคหะสถาน โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ร่วมกันทำร้ายเจ้าพนักงาน และจะคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีสะเทือนขวัญและเป็นการกระทำที่อุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายและศีลธรรมเพราะเป็นการก่อเหตุภายในวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ซึ่งเป็นพระศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง

พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่าวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน จะสงบได้หรือไม่นั้น อยากให้ทั้งสองฝ่ายเจรจาและถอยกันคนละก้าว ส่วนแกนนำที่ถูกจับก็จะดำเนินคดี

ผู้สื่อข่าวถามต่ออีกว่า พระครูวิสุทธิวรากร เจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน เจ้าอาวาสที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างถูกต้อง จะเข้าวัดได้หรือไม่ จะปลอดภัยหรือเปล่า พล.ต.ต.กำธร จันที ผบก.ภ.จว.พิจิตร กล่าวว่า ต้องเข้าวัดได้ แต่ถ้าห่วงเรื่องความปลอดภัยก็ขอให้ทำหนังสือร้องขอกำลังมาจะให้ตำรวจไปทำการอารักขาตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนพวกชาวบ้านที่ยังปักหลักและสลับสับเปลี่ยนกันมาชุมนุมป่วนภายในวัด คงต้องใช้หลักรัฐศาสตร์ เพราะตำรวจไม่ประสงค์จะใช้ความรุนแรงกับชาวบ้าน

อย่างไรก็ตามบรรยากาศภายในวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ขณะนี้ก็ยังอยู่ในการยึดครองของชาวบ้าน รวมถึงมีพระสงฆ์จากวัดอื่นมานั่งรับสังฆทานและรับบริจาคเงินจากชาวบ้านหรือนักท่องเที่ยว อยู่ในวิหารหลวงพ่อเงิน โดยกลุ่มคนดังกล่าวครอบครองและเปิดประตูวัดต้อนรับนักท่องเที่ยว แต่ไม่ต้อนรับเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน และกรรมการวัดรวมถึงบุคคลที่เป็นคูกรณีหรือเป็นปรปักษ์ รวมถึงนักข่าวบางคนที่ไม่เข้าข้างกลุ่มผู้ชุมนุมดัวย

 

ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์

Leave a Reply