วันที่ 16 เม.ย. 66 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทยในฐานะรองประธานกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยได้ติดตามการปฏิบัติงานศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2566 ร่วมกับภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง นับตั้งแต่การเปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2566 เมื่อวันที่ 11 เมษายน ที่ผ่านมา โดย พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้อำนวยการ ศปถ. ซึ่งได้มีการรณรงค์ภายใต้แนวคิด “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” โดยกำชับไปยังท่านผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัด และท่านนายอำเภอในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนนอำเภอ รวมถึงผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ดำเนินมาตรการทั้งการป้องกัน ป้องปราม และการบังคับใช้กฎหมายในทุกเส้นทางทั้งถนนสายหลัก ถนนสายรอง และถนนในความรับผิดชอบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้งนี้ จากรายงานของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2566 พบว่า มีสถิติอุบัติเหตุทางถนนสะสม 5 วัน (วันที่ 11 – 15 เมษายน 2566) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,744 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 197 ราย ผู้บาดเจ็บ 1,738 คน โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ น่าน (59 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (15 ราย) และจังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ น่าน (59 คน) จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต 7 จังหวัด

“ในวันนี้ เป็นวันหยุดช่วงท้ายของเทศกาลสงกรานต์ 2566 ซึ่งพี่น้องประชาชนที่ได้เดินทางกลับไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ รวมถึงที่เดินทางไปท่องเที่ยวทัศนาจรยังสถานที่ต่าง ๆ อยู่ระหว่างการเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร รวมถึงจังหวัดต่าง ๆ เพื่อเตรียมทำงาน ประกอบอาชีพ จึงทำให้ปริมาณยานพาหนะในถนนทุกสายของวันนี้มีจำนวนมาก รวมทั้งในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา อาจมีพี่น้องประชาชนหลายท่าน ใช้เวลาร่วมกับครอบครัว ร่วมกับญาติมิตรเพื่อนฝูง เฉลิมฉลองสังสรรค์ ซึ่งอาจส่งผลทำให้ร่างกายไม่ได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ ดังนั้น กระทรวงมหาดไทย จึงได้เน้นย้ำไปยังท่านผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ได้บูรณาการทีมจังหวัด และทีมอำเภอในพื้นที่ ทั้งภาคราชการ ภาคเอกชน ฯลฯ ดูแลและอำนวยความสะดวกในการเดินทางกลับของประชาชนอย่างเข้มข้น จัดจุดบริการประชาชนเพื่อดูแลความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน มีกาแฟ น้ำดื่ม ของว่าง ไว้บริการให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งในบ้างพื้นที่ ด้วยความสมัครสมานสามัคคีของภาคีเครือข่าย ได้มีบริการอาหารหลัก อาหารว่างสำหรับผู้ใช้รถใช้ถนน จึงขอให้ท่านที่หากง่วงนอน หรืออ่อนเพลียในระหว่างขับรถ แวะพักได้ตามจุดบริการประชาชนที่มีกระจายอยู่ทุกเส้นทาง ทุกพื้นที่อำเภอ ตำบล ในถนนทุกสาย นอกจากนี้ ยังได้เน้นย้ำให้ทุกด่านเพิ่มความถี่เรียกตรวจในเส้นทางเสี่ยงอุบัติเหตุและถนนทางตรง อีกทั้งเข้มงวดบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิด โดยเฉพาะไม่พกใบอนุญาตขับขี่ ขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ดื่มแล้วขับ มีจำนวนผู้โดยสารเกินที่กฎหมายกำหนด และไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย พร้อมทั้งเตรียมพร้อมด้านการแพทย์ฉุกเฉินให้สามารถเข้าถึงจุดเกิดเหตุโดยทันที เพื่อดูแลประชาชนให้เดินทางถึงจุดหมายอย่างปลอดภัยที่สุด และสำหรับจังหวัดที่มีจุดตัดทางรถไฟ จังหวัดที่มีพื้นที่ชายฝั่ง ให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามอำนาจหน้าที่ ดูแลอำนวยการความปลอดภัยในทุกจุด และสำหรับอำเภอให้สั่งใช้สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) และสั่งการกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายปกครอง คณะกรรมการหมู่บ้าน (กม.) กวดขันการใช้จักรยานยนต์ที่ไม่ปลอดภัยของกลุ่มวัยรุ่น กลุ่มเด็กและเยาวชนที่อาจจะใช้รถไม่ปลอดภัยก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของตนเองรวมถึงส่วนรวมด้วย รวมทั้งกวดขันการจอดรถริมทางซื้อของฝากและร้านค้าที่วางสิ่งของล้ำช่องทางจราจร เพื่ออำนวยการจราจรให้คล่องตัวและป้องกันอุบัติเหตุจากการแซงริมไหล่ทาง” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวเน้นย้ำ


Leave a Reply