อำเภอวังเจ้า “ไม่มีแผ่ว” เดินหน้า “หมู่บ้านรักษาศีล 5″ ขยายผลสู่ ” หมู่บ้านศีลธรรม” ต่อเนื่อง

วันที่ 1 มี.ค. 67 นายศักดิ์ดา สำเภาเงิน นายอำเภอวังเจ้า จังหวัดตาก เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครอง มีนโยบายการขับเคลื่อนโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา “หมู่บ้านรักษาศีล 5 ขยายผลสู่ หมู่บ้านศีลธรรม” ซึ่งเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยยึดหลักทางศาสนาและนำมาปฏิบัติจนเป็นวิถีชีวิต เพื่อสร้างวัฒนธรรมการอยู่ร่วมกันด้วยความปรองดองสมานฉันท์ ก่อให้เกิดสันติสุขในหมู่บ้าน/ชุมชน พัฒนาไปสู่หมู่บ้านศีลธรรม ภายใต้ภารกิจของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีพันธกิจที่เกี่ยวข้องกับประชาชนสมดังพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐที่หวังให้ “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง “

นายศักดิ์ดา สำเภาเงิน นายอำเภอวังเจ้า กล่าวว่า ฝ่ายปกครองอำเภอวังเจ้า ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดตาก สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดตาก เจ้าหน้าที่ปกครอง สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนอำเภอวังเจ้า ที่ 10 อสม. และคณะกรรมการหมู่บ้าน ได้บูรณาการร่วมกับคณะสงฆ์ตำบลเชียงทอง นำโดยพระครูพินิจธรรมโชติ เจ้าคณะตำบลเชียงทอง เลขานุการเจ้าคณะอำเภอวังเจ้า เจ้าอาวาสวัดลาดยาวใหม่ ขับเคลื่อนโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางศาสนา “ขยายผลสู่ หมู่บ้านศีลธรรม” ของอำเภอวังเจ้า มาอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ได้จัดกิจกรรม ดังนี้ 1) โครงการวัดไม่ทิ้งโยม ถนนสายบุญ เป็นการออกรับบิณฑบาต ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม นำมาจัดเป็นถุงยังชีพ จำนวน 30 ถุง ๆ ละ 1,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 30,000 บาท เพื่อนำไปมอบให้แก่กลุ่มเปราะบางในพื้นที่ บ้านใหม่ชัยมงคล หมู่ที่ 10 ตำบลเชียงทอง 2) โครงการบ้านนี้มีรัก ปลูกผักแบ่งปัน โดยคณะสงฆ์วัดลาดยาว ร่วมกันปลูกผักสวนครัว อาทิเช่น ถั่วฝักยาว มะเขือยาว มะเขือม่วง มะระจีน ฟักทอง กล้วยไข่ กล้วยน้ำว้า แตงกวา เป็นต้น และเปิดโอกาสให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้วัดเข้ามาเก็บไปบริโภคได้ ส่วนหนึ่งคณะสงฆ์จะเก็บและทำเป็นกำ ๆ ให้ผู้ใหญ่บ้านนำไปแจกชาวบ้านที่บ้านอยู่ห่างไกลจากวัด 3) โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิต กลุ่มเปราะบาง ผู้ด้อยโอกาส หรือผู้ยากไร้ จัดซื้อเครื่องอุปโภค บริโภค สิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น ให้กับผู้ด้อยโอกาส ผู้ยากไร้ ผู้ยากจน ผู้พิการ หรือผู้สูงอายุ ในพื้นที่บ้านลาดยาว ตำบลนาโบสถ์ จำนวน 1 ราย และบ้านครองราชย์ ตำบลเชียงทอง จำนวน 1 ราย

“การจัดกิจกรรมดังกล่าว เป็นการขับเคลื่อนโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางศาสนา “ขยายผลสู่ หมู่บ้านศีลธรรม” ในด้านหลักประกันชีวิต เสริมสร้างให้คนในสังคมไทยมีจิตใจที่เป็นบุญเป็นกุศล เพิ่มพูนในการทำความดี ช่วยกันดูแลสังคม และส่งเสริมการสร้างความสามัคคี ปรองดอง ช่วยเหลือ เกื้อกูลกันภายในชุมชน โดยยึดประโยชน์ของส่วนรวมเป็นที่ตั้ง ร่วมมือกันในการสงเคราะห์เกื้อกูล บูรณาการความร่วมมือเพื่อพัฒนาสังคมไทย และขยายผลไปช่วยสังคมโลกให้มีความสุขอย่างยั่งยืน โดยส่งเสริมและสนับสนุนให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันเป็นอย่างดีทั้งบ้าน วัด โรงเรียน หน่วยงานราชการ และองค์กรเอกชน เสริมสร้างความอบอุ่นให้สมาชิกในหมู่บ้าน/ชุมชน เพื่อให้เกิดความสงบสุข ร่มเย็น เป็นสุข และได้ร่วมรับประโยชน์ คือ ความสุข ความอิ่มเอมใจ ไปด้วยกัน เพื่อนำไปสู่ “หมู่บ้านศีลธรรม” อย่างยั่งยืนตลอดไป” นายศักดิ์ดาฯ กล่าวเน้นย้ำ

นายศักดิ์ดา สำเภาเงิน นายอำเภอวังเจ้า กล่าวทิ้งท้ายว่า ทีมอำเภอวังเจ้า มุ่งมั่นในการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” และภาคีเครือข่ายในพื้นที่ มีแนวคิดที่จะ Change for Good โดยการสนองพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการทำให้ “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” โดยการขยายเครือข่ายการสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ และสร้างกลไกที่มีความยั่งยืน สามารถขับเคลื่อนได้อย่างต่อเนื่อง ทำงานแบบยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง และใช้ทุนทางวัฒนธรรม “ครอบครัว ศาสนา สถานที่ราชการ หรือ สถานศึกษา” หรือ บ้าน วัด ราชการ หรือ “บวร” สร้างภูมิคุ้มกัน เพื่อความมั่นคงในระดับชุมชนหมู่บ้าน เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา สิ่งสำคัญ คือ ภาครัฐต้องเป็นส่วนที่กระตุ้น ปลุกเร้า และจับมือให้ทุกภาคส่วนเข้ามาช่วยลงมือลงแรงไปด้วยกัน ซึ่งสิ่งที่เราทุกคนจะได้รับนอกจากจะเป็นความสุขทางใจแล้ว ยังช่วยทำให้คนในชุมชนของเรามีความเข้มแข็งมั่นคงอีกด้วย

Leave a Reply