เมื่อวานกำลัง “หงุดหงิด” กับการลงพื้นที่ “หมู่บ้านรักษาศีล 5”  ซึ่งปีนี้จัดไม่ “ครึกครื้น” หรือ “คึกคัก” เหมือนปีที่แล้ว เพราะไม่มีการ “ลงพื้นที่” ไปสัมผัสกับชาวบ้านเหมือนปีที่แล้ว ปีที่แล้ว ทั้งลงไปเยี่ยมชุมชน คนป่วยติดเตียง แจกของ ลงไปมอบบ้านให้คนไร้บ้าน ปีนี้จัดงานเหมือน “วันธัมมสวนะ” คือ แค่ไปฟังเหตุผลลงพื้นที่ การตั้งคำถาม 4 ประเด็น  กินข้าว แล้วก็กลับบ้าน บรรยกาศเสมือนไป “งานศพ”

“หงุดหงิด”  เพราะไม่ได้ “กินข้าว”  ตอนแรก “ทีมงาน” นัดให้ไปที่ร้านอาหาร เมื่อไปถึง “ทำท่า” จะดี เมื่อถามว่า “ฆราวาส” กินข้าวที่ไหน  “คนจัด” บอก  “กินข้าวกล่อง” สะอึก!!

คิดในใจแล้วให้ขับรถมาที่ “้ร้านอาหาร” ทำไม ที่วัดก็กินได้แบบนี้

แปลว่า “คณะสงฆ์” และ “สำนักงานพุทธ”  อ่อนหัดเรื่องการดูแล “สื่อมวลชน” มาก สู้ “วัดพระธรรมกาย” ไม่ได้จริง ๆ

เขามาทำข่าวให้ฟรี เสียเวลา เสียค่ารถ ยังน้อย “อาหาร 1 มื้อ” ต้องกินให้อิ่ม!! อันนี้ คือ “น้ำใจ”  ส่วนจะมี “ใต้โต๊ะ” ค่าน้ำมันหรืออะไรนั่น.. คงไม่มี “สื่อใด” กล้าเรียกร้อง!!

เมื่อถึงเวลาจะ “กินข้าวกล่อง”  ดูบรรยากาศ “คนขับรถวัด” กำลังแบ่งกันทำท่า “จะไม่พอ” จึงบอกพระว่าเดียวไป “รอที่วัด” เมื่อไปถึงวัด “ขับรถวน” 2 รอบ เพราะเข้าวัดไม่ได้ สุดท้ายอ้าง “ป้ายอนุกรรมการ” จึงเข้าไปจอดที่ “อส.” ให้ จอด  ๆ เสร็จ สักพักมี “เจ้าหน้าที่” บอกให้ย้ายออกอีก ย้ายเสร็จขึ้นไปบนศาลาสถานที่จัดงานแบบแคบ ๆ  เจอทีมงานถ่ายทอดสด ชวนลงไป “ทานข้าว” เห็นคน “ต่อแถว” ยาวเหยียด” เป็น “กระเพาะปลา”  เลยบอก “ทีมงานถ่ายทอดสด”  ขอกลับไปกินข้าวที่บ้านดีกว่า!!

การลงพื้นที่ 4 จังหวัดผ่านมาแล้ว ทั้ง นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และอยุธยา การจัดงานปีนี้ “จืดชืด” ตัวแทนกระทรวงมหาดไทย ที่คณะสงฆ์ไปทำ MOU ไว้ก็ไม่มีใครมา ส่วนใหญ่มีแค่ “รองผู้ว่า” และที่สำคัญตัวแทน “สำนักงานพุทธฯ” ระดับรองผอ.หรือ ผู้ตรวจ ก็ไม่มีมาร่วม

เสียชื่อ “พี่ใหญ่” สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี หมด ในฐานะเป็น “แม่ทัพใหญ่”  ศีล 5

กลับถึงบ้าน..มีนักการเมืองจาก “พรรคเพื่อไทย” คนหนึ่งโทรมาถามว่า..การฟอร์มคณะรัฐมนตรีใหม่ ท่านใดเหมาะสมมาดูแล..กิจการพระพุทธศาสนา

เลยตอบไปว่า ตอนนี้พรรคเพื่อไทย ไม่มีตัว มองไม่เห็น คนที่มาทำงานรับใช้พระพุทธศาสนา ที่ผ่านมา 3 ท่าน นอกจาก “พิชิต ชื่นบาน” แล้ว  ที่พรรคเพื่อไทยส่งมา ล้วนล้มเหลว เสียชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” ขวัญใจประชาชนและชาวพุทธส่วนใหญ่หมด

“ผู้เขียน” จึงเสนอไป 3 ชื่อ ในฐานะคนเคยทำงาน “อนุกรรมาธิการศาสนา” ด้วยกัน คือ ดร.นิยม เวชกามา,ดร.เพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล  และ “ดร.ปิง”  ณพลเดช มณีลังกา  พร้อมกับบอกต่อว่า 2 คนแรก เป็น “พระมหาเก่า” ทำงานเข้ากับคณะสงฆ์ได้ดี แต่ต่างก็มี “จุดอ่อน-จุดแข็ง”  ส่วน “ดร.ปิง” เป็น “มือประสานสิบทิศ”  แม้ในวงการคณสงฆ์จะเป็นที่รู้จักน้อย แต่ ประสานงานได้ดีระดับหนึ่งระหว่างรัฐบาล สำนักงานพุทธ และคณะสงฆ์ ซึ่งหากจะเอาคนเหล่านี้มาทำงาน สิ่งสำคัญที่สุดต้องมี “แบ็คอัฟ” คือ เครือข่ายชาวพุทธ คอยแนะนำ ทั้งแนะนำต่อว่า อย่าฟังแต่ข้าราชการ ไม่งั้นผลงานของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับกิจการพระพุทธศาสนา กับคณะสงฆ์ก็จะ “ล้มเหลว” ตลอด 1 ปีที่เขามา

นอกจาก 3 คนนี้แล้วนั้นในพรรคเพื่อไทยไม่มีใคร “มีแวว”  หรือ “เข้าตา” สักคน