วันที่ 16 ก.พ.2562 ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ได้ประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งและแบบบัญชีรายชื่อ รวมถึงรายชื่อบุคคลที่พรรคการเมืองจะเสนอให้รัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี โดยให้ประกาศรายชื่อพรรคการเมืองที่ยื่นบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อจำนวน 77 พรรคการเมือง รวมถึงประกาศรายชื่อผู้สมัคร รับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ให้แก่ผู้สมัครที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกตั้งจำนวน 2,810 คน และไม่ประกาศรายชื่อจำนวน 107 คน
ทั้งนี้สำหรับพรรคแผ่นดินธรรมนั้น กกต.ได้ประกาศรับรองทั้งหมด 24 คน พร้อมกันนี้ได้ประกาศ เรื่อง การแจ้งรายชื่อบุคคลที่พรรคการเมืองจะเสนอให้รัฐสภาพิจารณาแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 แล้วนั้น มีรายชื่อศาสตราจารย์พิเศษ ดร.บรรจบ บรรณรุจิ อดีตสามเณรเปรียญธรรม 9 ประโยค และนายกรณ์ มีดี หัวหน้าพรรคแผ่นดินธรรม ป.ธ.7 ที่เสนอโดยพรรคแผ่นดินธรรมรวมอยู่ด้วย
ทั้งนี้ศ.พิเศษ ดร.บรรจบ เปิดเผยว่า ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทางพรรคแผ่นดินธรรมที่ให้เกียรติเสนอชื่อตนในฐานะผู้สมัครเป็นนายกรัฐมนตรีคนหนึ่งของพรรคนั้น แต่เรื่องนี้ทำให้เกิดความรู้สึกต่าง ๆ ในสังคมทั้งในเชิงลบและบวก ซึ่งทั้งหมดมีผลกระทบต่อผมและครอบครัว จึงใคร่ขอเรียนว่า
1. ตนรู้ดีว่าการเสนอชื่อนั้นเป็นการทำตามกติกาของการเลือกตั้งที่แต่ละพรรคการเมืองต้องทำ และสมาชิกพรรคแผ่นดินธรรมก็ให้เกียรติตนในฐานะได้เคยร่วมงานกันมาในการก่อตั้งสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย
2.ตนยินยอมให้ทำก็เพียงเพื่อช่วยพรรคแผ่นดินธรรมให้ปฏิบัติตามกฏหมายได้ถูกต้องครบถ้วน มิได้หวังผลเลอเลิศอะไรเป็นส่วนตน แต่หวังผลในภาพรวมคือให้ชาวพุทธได้ตื่นและตระหนักรู้ถึงภารกิจที่จะต้องทำเพื่อพระพุทธศาสนาซึ่งสมควรโดยประการทั้งปวงที่จะประกาศได้ว่า “เป็นศาสนาประจำชาติไทย”
3.พรรคแผ่นดินธรรมคือพรรคของชาวพุทธที่ตั้งขึ้นด้วยเจตนารมณ์เพื่อทำงานการเมืองคุ้มครองพระพุทธศาสนา เป็นการรับภาระต่อจากสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย
4.ตนขอเรียนอีกครั้งว่า การเสนอชื่อผมในครั้งนี้ แม้จะมีผลกระทบเชิงลบแก่ตัวผมบ้างที่หลายคนอาจมองว่า “มักใหญ่ใฝ่สูงเกินตัวเกินฐานะและเกินความสามารถ” (ซึ่งผมทนได้) แต่ก็ดีใจที่ได้เห็นชาวพุทธจำนวนมากตื่นตัวกันในการใช้การเมืองเป็นทางหนึ่งเพื่อปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนาซึ่งมีสิทธิ์เต็มที่ในการเป็นศาสนาประจำชาติ
5. บัดนี้สมาพันธ์ ฯ และพรรคแผ่นดินธรรมกำลังมีพัฒนาการไปเป็นสมบัติของมหาชนแล้ว ด้วยเหตุนี้ ตนจึงมั่นใจว่า ทั้งสมาพันธ์ฯและพรรคแผ่นดินธรรมเกิดแล้ว และกำลังแตกรากขยายหน่อ ยิ่งมาเห็นการทำงานแบบแข็งขันของมวลสมาชิกที่แตกรากขยายหน่อออกไปนั้นก็ยิ่งมั่นใจได้ว่าจะเดินต่อไปได้ แม้จะคนรุ่นเก่าๆที่ก่อตั้งมาแต่แรกๆอย่างผมจะถดถอยลงไปตามกาลเวลา จึงขอฝากทั้งสมาพันธ์ฯและพรรคแผ่นดินธรรมไว้แก่ทุกคน ด้วยอยากเห็นคนใหม่ๆเข้ามาเสริมแทนกัน
Leave a Reply