สถาบันพระไตรปิฏก มจร ระดมปราชญ์ถก เตรียมพัฒนาติปิฏกาจารย์อธิบาย ตีความ เพื่อตอบปัญหาและข่มปรัปวาท พร้อมนำลงสู่วิถีของการปฏิบัติในชีวิต และสังคมไทยยุคดิจิทัล
วันที่ 5 สิงหาคม 2562 ที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา สถาบันพระไตรปิฏกศึกษา และ วิทยาเขตบาลีศึกษาพุทธโฆส มจร นำโดยพระศรีศาสนบัณฑิต,ผศ. ผู้อำนวยการสถาบันพระไตรปิฏกศึกษา ได้จัดสัมมนาเชิงพัฒนา เรื่อง “พระไตรปิฏกคงอยู่ พระพุทธศาสนายั่งยืน” ทั้งนี้ พระราชปริยัติกวี,ศ.ดร. อธิการบดี และผู้ทรงคุณวุฒิ ได้ร่วมแสดงความเห็นและให้ข้อสังเกตเพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนา และนำพระไตรปิฏกลงสู่วิถีของการปฏิบัติในชีวิต และสังคมไทย
ทั้งนี้มหาจุฬาฯ ได้จัดตั้งสถาบันพระไตรปิฏกศึกษาขึ้น ในปี 2560 เพื่อสนองตอบพระราชปณิธานของรัชกาลที่ 5 ที่มุ่งให้มหาจุฬาฯ ศึกษาพระไตรปิฏกและวิชาชั้นสูง อีกทั้งมุ่งให้สถาบันพระไตรปิฏกศึกษาได้ศึกษา ค้นคว้า วิจัย จัดหลักสูตรระยะสั้น และตอบคำถามสังคมที่สนใจและมีข้อขัดแย้งประเด็นต่างๆ ในพระไตรปิฏกกับปัญหาสมัยใหม่ รวมถึงการพัฒนาติปิฏกาจารย์เพื่อทำหน้าที่ในศึกษาวิจัย และเป็นหลักในการนำเสนอหลักการที่แท้จริงในพระไตรปิฏกแก่สังคมต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันนี้หลายวงการได้นำปัญญาประดิษฐ์ ( artificial intelligence) หรือ เอไอ (AI) ทำหน้าที่ในการวิเคราะห์ (จินตามยปัญญา) ข้อมูล (Data) แล้วสังเคราะห์พัฒนา(ภาวนามยปัญญา) เป็นนวัตกรรมต่างๆ รวมถึงในวงการพระพุทธศาสนาอย่างเช่นประเทศจีนนำได้ว่าผู้เป็นนำด้านการนำปัญญาประดิษฐ์มาใช้ โดยพัฒนาเป็นหลวงพ่อทำหน้าที่เทศน์แทนพระเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ประเทศญี่ปุ่นก็ได้พัฒนาเป็นเจ้าแม่กวนอิมและมีการจัดแสดงเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาในช่วงเทศกาลวันวิสาขบูชาโลก
และในการเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชาโลกที่ประเทศเวียดนามเป็นเจ้าภาพก็ได้ออกปฏิญญาฮานามออกมาโดยระบุที่จะนำปัญญาประดิษฐ์มาเป็นเครื่องมืองานพระพุทธศาสนามากยิ่งขึ้น เชื่อแน่ว่าจะทำให้งานตีความ วิเคราะห์ สังเคราะห์หลักธรรมในพระพุทธศาสนาแล้วประยุกต์ใช้วิถีชีวิตประจำวันเหมาะกับยุคดิจิทอลมากขึ้นและมีพลัง
Leave a Reply