เมื่อวันที่ 26 เม.ย.2564 จากแหล่งข่าวการเผยแพร่การบรรยายข้อกฎหมายของ ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ และรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวในหลักสูตรการบริหารงานยุติธรรมระดับสูง รุ่นที่ 12 (ยธส.12) ในวันที่ 22 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา โดยได้กล่าวถึงประเด็นการซักถามถึงการฝากขังพระภิกษุสงฆ์จะถือว่าพ้นจากความเป็นพระสงฆ์หรือไม่
ผศ.ดร.ปริญญา กล่าวโดยสรุปว่า “การพ้นสภาพความเป็นสงฆ์จะต้องเข้าเหตุปาราชิก 4 ประการ ประกอบด้วย เสพเมถุน ,ฆ่าคน, ลักทรัพย์,กล่าวอวดอุตริมนุสธรรมที่ไม่มีในตน นี่คือสิ่งที่ทำให้ขาดจากความเป็นพระ! ถ้าหากว่าข้อหาที่โดนทางโลกไม่เข้า 4 ข้อนี้ ‘ท่านก็ยังเป็นพระอยู่!’ เพราะฉะนั้นผมก็ไม่เข้าใจ ว่าท่านจะพ้นสภาพพระไปได้อย่างไร ในความเป็นจริงหลักวินัยของพระสงฆ์ก็มีการเทียบเคียงกับกฎหมายอาญา ในพระวินัยจะมีข้อยกเว้นกับพระภิกษุที่เป็นต้นบัญญัติ พระต้นบัญญัติคือพระที่กระทำการไปที่เป็นเหตุให้ต้องมีการบัญญัติศีลข้อนั้นขึ้นมา คนแรกที่ทำลงไปแล้วเป็นเหตุห้ามไม่ให้ทำ คนแรกที่ทำไปพระพุทธเจ้าท่านถือว่าทำไปตอนที่ยังไม่มีข้อห้าม
“ดังนั้นจึงไม่ผิด ซึ่งก็แปลว่า ‘นี่คือกฎหมายอาญาห้ามย้อนหลัง’ ความจริงผมเรียนว่าศาสนาพุทธเราทันสมัยมากแม้บัญญัติไว้เมื่อสองพันห้าร้อยกว่าปีที่แล้ว ‘เพราะฉะนั้นการที่พระสงฆ์ไม่เปล่งวาจาสึกและไม่ได้เข้าเหตุแห่งปาราชิก 4 ประการท่านก็ยังคงเป็นพระอยู่’ ส่วนในเรื่องถอดจีวรขณะติดคุกก็เป็นเรื่องระเบียบของราชทัณฑ์ ถ้าท่านเป็นข้าราชการใส่ชุดตำรวจทหารเข้าไปเขาก็ต้องจับถอดหมด จีวรก็เป็นเครื่องแบบอย่างหนึ่ง มันไม่ได้เป็นประเด็นเลยว่าการต้องถอดชุดทหารแล้วท่านจะพ้นจากการเป็นทหารซึ่งมันก็ไม่ใช่!” ผศ.ดร.ปริญญา กล่าว
Leave a Reply