วันที่ 1 กันยายน 2564 หลังจากเว๊บไซต์ข่าว “thebuddh” ได้เสนอข่าว “มหาจุฬา ฯ ป่วน ผู้บริหาร -คณาจารย์ ถูกลดค่าตอบแทน – เงินประจำตำแหน่งถ้วนหน้าเริ่ม 1 ตุลาคมนี้” นั่น
ล่าสุด พระเมธีธรรมาจารย์ หรือ เจ้าคุณประสาร รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย หรือ มจร เปิดเผยว่า จากกรณีที่ปรากฎข่าวต่อสาธารชนในการให้ข้อมูลของผู้บริหารมหาวิทยาลัยท่านหนึ่งที่ได้พูดถึงมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยว่าปัจจุบันนี้มหาวิทยาลัยไม่สามารถจะแบกรับค่าใช้จ่ายได้ในช่วงที่เกิดผลกระทบจากโควิด-19 จึงได้มีการลดค่าตอบแทนของทุกฝ่าย ทุกระดับลง ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความโกลาหลและอาจจะลุกลามถึงขั้นหาที่พึ่งทางกฎหมายนั้น
พระเมธีธรรมาจารย์ ในฐานะรองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา มจร ที่มีหน้าที่รับผิดชอบงานด้านแผนและงบประมาณของมหาวิทยาลัยโดยตรง จึงขอชี้แจงและทำความเข้าใจ ดังนี้
มหาวิทยาลัยในประเทศไทยในทุกสถาบันการศึกษาวันนี้ล้วนได้รับผลกระทบจากภาวะต่าง ๆ ตามการเปลี่ยนแปลงภายในประเทศและประชาคมโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นอกจากนั้นแล้วยังมีเหตุการณ์เฉพาะหน้าที่คาดไม่ถึง เช่น โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบทั้งโดยตรงและโดยอ้อมด้วยแล้ว ก็ยิ่งจะต้องทำให้ทุกมหาวิทยาลัยล้วนต้องปรับตัวเพื่อให้อยู่ได้ เดินหน้าต่อไปได้ ส่วนแนวทางนั้นหลายที่ หลายแห่งอาจจะต้องยอมเจ็บ ยอมลดบางสิ่งบางอย่างลงเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน และความจริงที่เกิดขึ้น

มหาวิทยาลัยวันนี้ภาพรวมนิสิต นักศึกษาลดลง รายได้ลดลง ค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นและนอกจากนั้นแล้วก็ยังมีการแข่งขันกันสูงขึ้นกว่าในอดีตมาก ทั้งหลายทั้งปวงนี้ล้วนแต่เป็นภาระของทุกมหาวิทยาลัยที่ต้องแบกรับกันอยู่ ไม่เว้นแม้แต่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ผู้บริหารระดับสูงของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เมื่อมองเห็นสภาพการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นนี้แล้วจึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อศึกษาหาแนวทางป้องกันและแก้ใข โดยมีพระเมธีธรรมาจารย์ รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา เป็นประธาน มีรองประธานและคณะกรรมการที่มีองค์ประกอบที่คัดเลือกมาจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง คณะกรรมการชุดดังกล่าวได้ทำการศึกษาและประชุมร่วมกันมีมติ ดังนี้
1.งบประมาณที่เป็นรายได้จากภาครัฐที่กำหนดไว้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นค่าตอบแทน ค่าสวัสดิการ โครงการ แผนงานและอื่นๆนั้นจะต้องคงไว้ไม่สามารถที่จะไปเปลี่ยนแปลงใดๆได้เลย
2.ค่าตอบแทนที่มหาวิทยาลัยสบทบให้ซึ่งก็เท่ากับค่าตอบแทนที่งบประมาณที่ภาครัฐจัดสรรมาให้นั้น ในส่วนนี้ที่เป็นรายได้ของมหาวิทยาลัย นั้น ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 นี้ขอให้งดไว้ชั่วคราวก่อน
ในส่วนนี้ประชาคมส่วนใหญ่ใน มจร อาจจะยังไม่ทราบรายละเอียด จึงอาจจะมีข้อมูลที่ไม่ตรงนัก ค่าตอบแทนในทุกตำแหน่งทั้งในทางบริหารและวิชาการนั้น ภาครัฐจัดสรรมาให้ส่วนหนึ่งเท่านั้น ขอย้ำว่าส่วนหนึ่งเท่านั้น ที่เราได้เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบันนี้เพราะมหาวิทยาลัยได้จัดหามาเพิ่มให้จากรายได้ของเราเอง คือเพิ่มให้อีกเท่าตัว เช่น รัฐให้ค่าตอบแทนมา 100 บาท มหาวิทยาลัยเพิ่มให้อีก 100 บาท รวมได้รับ 200 บาท คณะกรรมการจึงขอระงับชั่วคราวในส่วน 100 บาทหลังนี้ซึ่งเป็นรายได้ของมหาวิทยาลัย
ส่วนตำแหน่ง ชำนาญการ ชำนาญการพิเศษ เชี่ยวชาญ ชำนาญงาน และชำนาญงานพิเศษ นั้นมหาวิทยาลัยไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณมาเพื่อเป็นค่าตอบแทนตำแหน่งเหล่านี้เลย ไม่มีเลย ที่ท่านเหล่านี้ได้รับค่าตอบแทนทุกวันนี้ก็ล้วนมาจากเงินรายได้ของมหาวิทยาลัยทั้งสิ้น และในทุกปีมหาวิทยาลัยจะต้องจัดสรรรายได้จากส่วนกลางเพื่อกระจายไปให้ครอบคลุมทั้งส่วนกลาง วิทยาเขตและวิทยาลัยสงฆ์ทั่วประเทศ ทั้งนี้แม้เราจะไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณจากภาครัฐแต่มหาวิทยาลัยก็ยินดีที่จะรับผิดชอบเพื่อจะเป็นขัวญ กำลังใจและสร้างแรงจูงใจในการทำงานให้มีประสิทธิภาพและให้บุคลากรสายงานด้านนี้มีความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน และวันนี้ก็ยังไม่ได้ตัดค่าตอบแทนในส่วนนี้ทั้งหมดเพียงแต่ขอลดลงบ้างตามความเหมาะสมเท่านั้นเอง


Leave a Reply