โคก หนอง นา พช. “ชาววัง คลังยา และอาหาร” บ.วังอ้อ จ.อุบลฯ พัฒนาพื้นที่นำวิถีชุมชนสู่หลัก “บวร”

วันที่ 13 กันยายน 2564  เมื่อวานนี้ นายภคิน ศรีวงศ์ นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ (ผู้ช่วยผู้อำนวยการกลุ่มงาน) กลุ่มงานสารสนเทศการพัฒนาชุมชน สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุบลราชธานี ประสานความร่วมมือกับ สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอเขื่องใน โรงเรียนบ้านวังอ้อ (ยอดสังข์วิทยาคาร) ผู้นำชุมชน และนักพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ (นพต.) อำเภอเขื่องใน ร่วมกิจกรรมปลูกไม้พื้นถิ่น สมุนไพรพื้นถิ่น และไม้ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง ตามหลักกสิกรรรมธรรมชาติ และแนวทางของกรมการพัฒนาชุมชน ในพื้นที่แปลงโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา พช.” บ้านวังอ้อ หมู่ที่ 9 ตำบลหัวดอน อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี พร้อมแบ่งปันผลผลิตและประกอบอาหารแก่นักเรียนโรงเรียนบ้านวังอ้อ และโรงเรียนบ้านแขม ตลอดจนชาวบ้านและผู้มีจิตศรัทธาอันเป็นกุศล

โอกาสนี้ ได้รับความเมตตาจากพระพิพัฒน์วชิโรภาส ผู้อำนวยการศูนย์พุทธธรรม สมเด็จพระมหาธีราจารย์ ป่าดงใหญ่วังอ้อ ผู้ให้การสนับสนุนการพัฒนาแปลง โคก หนอง นา พช. “ชาววัง คลังยา และอาหาร” ตามหลัก “บวร” หรือบ้าน วัด โรงเรียน ราชการ และเชื่อมประสานภาคีเครือข่ายในการพัฒนาพื้นที่ และช่วยเหลือเกื้อกูลแบ่งปัน เพื่อสร้างวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม เกิดความมั่นคงทางอาหาร และศูนย์เรียนรู้พืชสมุนไพรต้านโควิด-19 ขึ้น พร้อมนี้ เจ้าคุณพระพิพัฒน์วชิโรภาส ได้กล่าวอำนวยอวยพรให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมในวันนี้ว่า “กิจกรรมในวันนี้ถือเป็นการสร้างความมั่นคงทางอาหารและความมั่นคงของชีวิต จากการเอาแฮงสามัคคี หรือเอามื้อสามัคคี ซึ่งถือเป็นวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงาม โดยมีพลัง “บวร” หรือ บ้าน วัด โรงเรียน ราชการ จากสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุบลราชธานี สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอเขื่องใน นักพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ (นพต.) ผู้บริหาร คณะครูและนักเรียนโรงเรียนบ้านวังอ้อ (ยอดสังข์วิทยาคาร) ตลอดจนผู้นำชุมชน และประชาชนจิตอาสาในพื้นที่ใกล้เคียง ร่วมดำเนินกิจกรรมพัฒนาพื้นที่ โคก หนอง นา พช. “ชาววัง คลังยา และอาหาร” บ้านวังอ้อ นอกจากนั้น ยังได้มีการแบ่งปันผลผลิตและประกอบอาหารแก่นักเรียนโรงเรียนบ้านวังอ้อ และโรงเรียนบ้านแขม รวมถึงชาวบ้านและผู้มีจิตศรัทธาอันเป็นกุศลในพื้นที่ตำบลหัวดอน อำเภอเขื่องใน”

พระพิพัฒน์วชิโรภาส ยังได้กล่าวอำนวยอวยพร อีกว่า “พื้นที่ โคก หนอง นา พช. “ชาววังคลังยา และอาหาร” แห่งนี้ ยังใช้เป็นศูนย์เรียนรู้ การทำเกษตรทฤษฎีใหม่ เป็นตัวอย่างให้กับครอบครัว ชุมชน ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น คือความพอกิน พอใช้ พออยู่ พอร่มเย็น เป็นความมั่นคงขั้นพื้นฐาน และจักขยาย เป็นความมั่นคงขั้นก้าวหน้า คือบุญ ทาน เก็บขาย เป็นความร่วมมือของ “บวร” บ้าน วัด โรงเรียน ราชการ และที่สำคัญ คือจิตวิญญาณ ในการเข้าถึงศาสตร์พระราชา และธรรมะขององค์สมเด็จ พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า อาทิ ความสันโดษ ความอดทน ความเพียร ความสามัคคี ความมีน้ำใจ ความซื่อสัตย์ สุจริต จิตอาสา” ซึ่งการมอบผลผลิตจากโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต ตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา พช.” และการปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ก็เพื่อเป็นมหากุศลตามคำกล่าวที่ว่า “ยิ่งให้ไป ยิ่งได้มา” Our Loss is Our Gain และในอนาคต ต่อไปข้างหน้าชุมชนจะมีคลังยาและอาหารไว้กิน ไว้ใช้ ไว้แบ่งปัน ขออนุโมทนากับทุกท่านที่ร่วมแรงร่วมใจ ขอขอบคุณสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุบลราชธานี ที่ได้ร่วมสนับสนุนการดำเนินงานใน เพื่อให้เกิดศูนย์เรียนรู้ในการสร้างความมั่นคงทางอาหาร และทางรอดให้แก่คนในชุมชนในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)”

ขณะที่ นายภคิน ศรีวงศ์ ผู้แทนพัฒนาการจังหวัดอุบลราชธานี ได้เปิดเผยว่า “ขอกราบขอบพระคุณในความเมตตาจากเจ้าคุณพระพิพัฒน์วชิโรภาส ผู้อำนวยการศูนย์พุทธธรรมสมเด็จพระมหาธีราจารย์ป่าดงใหญ่วังอ้อ และความร่วมมือจากผู้นำชุมชนและภาคีเครือข่ายบ้านวังอ้อ ซึ่งเป็นผู้มีจิตอาสาและเป็นกุศล ตามหลัก “บวร” หรือ บ้าน วัด โรงเรียน ราชการ ในการพัฒนาพื้นที่ รวมถึงช่วยเหลือเกื้อกูลและแบ่งปันให้แก่คนในพื้นที่ โดนส่วนตัวนับว่าน่าเลื่อมใสศรัทธายิ่งนัก เหมาะสมแล้วที่ท่านสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ได้ยกย่องให้เป็นต้นแบบในการดำเนินงานและเห็นผลทั่วประเทศ ในส่วนของแผนงานในอนาคตสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุบลราชธานี จะประสานความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย ทั้งในด้านองค์ความรู้ด้านวิชาการ การถ่ายทอดและผู้มาเรียนรู้ ต่อยอดในการพัฒนาพื้นที่แห่งนี้ ร่วมกับหน่วยงานราชการ ประชาชนจิตอาสา และขยายผลกิจกรรมให้มีความต่อเนื่องในระยะยาวต่อไป”

Leave a Reply