“เพชรวรรต” โต้สมาคมปกป้องพระพุทธศาสนา อ้าง ส.ส.พุทธเสนอกฎหมายอิสลาม (คลิป)

วันที่ 13 ก.พ. 65  นายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล รองประธานกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่าจากที่มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอ ผ่านช่องทาง Youtube ในหัวข้อ “รายชื่อ ส.ส. ชาวพุทธ ที่สนับสนุนกฎหมายหมิ่นศาสนา” จากสมาคมปกป้องพระพุทธศาสนา โดยคลิปวิดีโอ ได้อ้างว่า  “มี รายชื่อ ส.ส. พรรคประชาชาติ 6 คน สส.พุทธ ที่เสนอร่างกฎหมายหมิ่นศาสนา พรรคเพื่อชาติ 1 คน ลำดับที่ 7 พรรคเพื่อไทย 13 คน ลำดับที่ 8-20 สมาคมปกป้องพระพุทธศาสนา จะเห็นว่ามีการเสนอกฎหมายอิสลามหรือกฎหมายสนับสนุนอิสลาม ก็จะเป็น ส.ส.พุทธ นี่แหละ ที่เป็นหัวหอกสนับสนุนเสียงส่วนใหญ่ อย่างไงก็ฝากพี่น้องพุทธศาสนิกชน ช่วยดูแล และเผยแพร่ข่าวสารนี้ออกไปเพื่อให้คนไทยได้ทราบว่า ส.ส.ของท่านได้รับผิดชอบในชาติพันธุ์ วัฒนธรรมจารีตของท่านแค่ไหน”

นายเพชรวรรต กล่าวว่า จากการเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าว มิใช่เป็นแต่เพียงกฎหมายของศาสนาอิสลามเพียงเท่านั้น แต่หมายถึงศาสนาทุกศาสนาซึ่งจะรวมถึงพุทธศาสนาด้วย เนื่องด้วยในปัจจุบันเราจะมีเพียง ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 206 ที่บัญญัติว่า “ผู้ใดกระทำด้วยประการใด ๆ แก่วัตถุหรือสถานอันเป็นที่เคารพในทางศาสนาของหมู่ชนใด อันเป็นการเหยียดหยามศาสนานั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงเจ็ดปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”

จะเห็นว่าปัญหาภายในพุทธศาสนาปัจจุบัน ก็มีจำนวนมากอีกทั้งการกำหนดอำนาจหน้าที่ก็ไม่ชัดเจน แม้ล่าสุดนี้ก็มีประเด็นพระภิกษุที่มีสีกา อยู่ในกุฏิ โดยมีที่คาดผมอยู่ในห้อง หลังจากนั้นก็อ้างว่าเอาที่คาดผมมารัดหัวเพื่อแก้ปวด ภายหลังพระภิกษุทำเพียงแต่เพียงแค่ลาสิกขา ก็ทำให้พ้นจากการเป็นพระและไม่มีบทบัญญัติของกฎหมายเข้ามาบัญญัติโทษ ให้กับผู้ที่ทำให้พุทธศาสนาเสื่อมเสีย ซึ่งตนเห็นว่าจากเหตุการณ์นี้ ก็จะนำไปสู่การเสื่อมเสียของพุทธศาสนามากขึ้น ควรบัญญัติโทษสำหรับผู้ที่ทำให้ศาสนาเสื่อมเสียด้วยเช่นกัน โดยสาระสำคัญของการเสนอให้บัญญัติกฎหมายเพิ่มเติมประกอบด้วย

มาตรา 206/1 “ผู้ใดกระทำด้วยประการใดๆ ที่การลบหลู่ หรือเหยียดหยาม หรือในประการที่จะทำให้ศาสนาเสื่อมเสีย ผู้นั้นกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทศาสนา ต้องระหว่างโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”

มาตรา 206/2 “ถ้าความผิดฐานหมิ่นประมาทศาสนา ได้กระทำโดยการโฆษณาด้วยเอกสาร ภาพวาด ภาพระบายสี ภาพยนตร์ ภาพหรือตัวอักษร ที่ทำให้ปรากฏไม่ว่าด้วยวิธีใดๆ แผ่นเสียงหรือสิ่งบันทึกเสียง บันทึกภาพ หรือบันทึกอักษร กระทำโดยการกระจายเสียง หรือการกระจายภาพ หรือกระทำการป่าวประกาศด้วยวิธีอื่น ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 2 แสนบาท”

นายเพชรวรรต กล่าวต่อไปว่า จากบทบัญญัติที่จะเพิ่มเติมขึ้นมานั้น ตนเห็นว่าเป็นไปตามหลักในพระพุทธศาสนาที่พระพุทธเจ้า บัญญัติในโอวาทปาฏิโมกข์ ที่เป็นหลักคำสอนสำคัญของพระพุทธศาสนา หรือคำสอนอันเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนาที่พระพุทธเจ้าตรัสแก่พระอรหันต์ ๑,๒๕๐ รูป ที่ไปประชุมกันโดยมิได้นัดหมาย ณ พระเวฬุวนาราม โดยมีบทบัญญัติว่า “อนูปวาโท” หรือแปลว่า “การไม่กล่าวร้ายกัน”

จากที่ผ่านมาตนต้องเรียนว่า ทาง กมธ. มีความพยายามฟื้นฟูศาสนาอย่างต่อเนื่อง ทำงานกันอย่างหนัก ส่งผลให้มีความเข้มแข็งขึ้นอย่างเป็นลำดับ ดังได้เสนอ พรบ. พุทธ ไปถึง 4 ฉบับและทุกฝ่ายเห็นด้วย ซึ่งการที่สมาคมปกป้องพระพุทธศาสนา อาจถูกฟ้องร้องในกรณีเผยแพร่ข่าวไม่ถูกต้องว่ามีการสนับสนุนกฎหมายอิสลาม ซึ่งจากกระบวนการเสนอกฎหมายยังมีอีกหลายขั้นตอน และอีกหลายวาระ มิใช่เสนอกฎหมายต่อสภาฯ แล้วกลายเป็นกฎหมาย หากประชาชนเห็นว่าจะปรับปรุงแก้ไขอย่างไร ก็สามารถเสนอผ่าน ส.ส. มาได้ หรือหากไม่ได้ประโยชน์ ส.ส.ก็สามารถถอดถอนรายชื่อได้เช่นกัน ตนเห็นว่าเราเป็นคนไทยด้วยกัน ต้องสมานสามัคคีกันและนำพาสังคมไทยไปสู่สังคมแห่งความสุข

 

 

Leave a Reply