วันนี้ (27 พ.ค. 65) เวลา 10:00 น. ที่โรงแรมมีเลีย อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการพัฒนาศักยภาพและเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับผู้ประกอบการ OTOP ผ้าไทย (Coaching ผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา) กิจกรรมที่ 1 จัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ้า และอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพ ผู้ประกอบการ OTOP ผ้าไทย (Coaching ผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา) โดยมี นายสมคิด จันทมฤก อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ผศ.ดร. ศศิธร จันทมฤก ประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายวิฑูรย์ นวลนุกูล รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน พัฒนาการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายธนันท์รัฐ ธนเสฏฐการย์ กรรมการที่ปรึกษาโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุกและผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าไทย ดร. ศรินดา จามรมาน กรรมการที่ปรึกษาโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก นายศิริชัย ทหรานนท์ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ THEARTE คุณตะวัน ก้อนแก้ว ผู้ช่วยบรรณาธิการแฟชั่น VOGUE THAILAND MAGAZINE นายพลพัฒน์ อัศวะประภา Fashion Designer นายภูภวิศ กฤตพลนารา ผู้เชี่ยวชาญด้านออกแบบสิ่งทอและแฟชั่น คุณสุนทร วาณิชย์มงคล คุณสมัย ชำนาญอาสา ผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นใย คุณบังอร ตรีเมืองปัก คุณอำภาภรณ์ ศรีโหม้ คุณปริญญาภา อยู่ประเสริฐ ผู้เชี่ยวชาญด้านการย้อมสีธรรมชาติ และผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ประเภทผ้า ช่างทอผ้า สมาชิกศิลปาชีพ จ.เชียงใหม่ น่าน แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน แพร่ พะเยา และเชียงราย สมาชิกทอผ้าฝ้ายโครงการพัฒนาเบ็ดเสร็จลุ่มน้ำปิงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ และสมาชิกทอผ้าฝ้ายโครงการฟาร์มตัวอย่างตามพระราชดำริ บ้านแม่ตุงติง อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ มากกว่า 60 กลุ่มเข้าร่วม
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ในวันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่พวกเราทุกคนจะได้รับการพัฒนาต่อยอดความก้าวหน้าในผลงานการออกแบบและตัดเย็บผ้าไทยที่เป็นภูมิปัญญาหัตถศิลป์หัตถกรรมเป็นอัตลักษณ์ของบรรพบุรุษให้คงอยู่คู่กับสังคมไทย อันเป็นการสนองพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงมาชี้ทางสว่างและทำให้สังคมไทยได้ฉุกคิดนำภูมิปัญญามาช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิต ทำให้ได้มีวันนี้ “วันที่ผ้าไทยได้กลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง” โดยมีจุดเริ่มต้นเมื่อปี 2513 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงโดยเสด็จพระราชดำเนินพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เยี่ยมเยียนราษฎรที่ประสบภัยน้ำท่วมที่บ้านท่าเรือ ตำบลนาหว้า อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม และทรงทอดพระเนตรเห็นผ้าซิ่นที่ประชาชนสวมใส่มารับเสด็จที่มีความสวยงาม ทำให้ทรงเกิดแนวความคิดในการอยากช่วยเหลือประชาชนด้วยการสร้างอาชีพเสริมให้กับเกษตรกรที่อาชีพต้องพึ่งพิงกับสภาพอากาศ ด้วยทรงยุยงและกระตุ้นทุกวิถีทางให้ประชาชนในพื้นที่ได้ทอผ้าเพื่อที่จะขายให้พระองค์ท่านก่อน และทรงอุทิศพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ซื้อผ้าของชาวบ้าน เพื่อกระตุ้นให้เกิดความอยากในการที่จะช่วยกันทอผ้า เป็นที่มาของคำว่า “ขาดทุนคือกำไร” เพื่อทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้น และทรงนำผ้าไหมไทยของชาวบ้านมาตัดฉลองพระองค์แล้วทรงสวมใส่ในทุกวาระโอกาส ทำให้ผ้าไทยกลับมาเฉิดฉายงดงามให้คนไทย และคนทั่วโลกได้สัมผัส ได้เห็น ได้เชยชมอีกครั้งหนึ่ง กอปรกับผู้นำประเทศในยุคนั้น คือ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้เป็นผู้นำในการสวมใส่ผ้าไทยในทุกการดำเนินชีวิตประจำวัน ยิ่งทำให้เกิดกระแสนิยมการแต่งกายผ้าไทยของคณะรัฐมนตรี ข้าราชการ พ่อค้า และประชาชนในทั่วประเทศ
“นับได้ว่าพวกเราเป็นผู้ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ในพระทัยของพระองค์ท่าน ทรงอยากช่วยให้พวกเรามีคุณภาพชีวิตที่ดี ด้วยการใช้เวลาว่างจากการทำไร่ ทำนา และทรงโปรดให้ผู้ทรงคุณวุฒิลงพื้นที่ไปช่วยแนะนำ สร้าง know-how ชี้ทางสว่างสร้างปัญญาเป็นแนวทางในการทำงานด้วย “การพัฒนาคน” ให้คนพัฒนาอาชีพ และพัฒนาความเป็นอยู่ได้ด้วยตนเอง ไม่ใช่การให้ข้าว ให้ปลา แต่ต้องรู้จักวิธีจับปลา วิธีหุงข้าว อันเป็นหลักการทรงงานที่ทรงทำให้พวกเราดูเป็นตัวอย่าง และข้าราชการทุกคนต้องเอาพระองค์ท่านเป็นแบบอย่างในการขับเคลื่อนปฏิบัติราชการเพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับพี่น้องประชาชน” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงต้น
Leave a Reply