การออกมากระตุ้นให้ตั้ง “กลุ่มผู้จบเปรียญธรรม 9 ประโยค” ของ เจ้าคณะภาค 1 “พระธรรมวชิรเมธี หรือ เจ้าคุณมีชัย” เหมือนจะสร้าง ”ความตื่นเต้น” ให้วงการมหาเปรียญ และสาธุชนที่มีบทบาทในการปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนาพอควร!
ความจริง มีการจดตั้ง “เปรียญธรรมสมาคมแห่งประเทศไทย” ในพระบรมราชูปถัมภ์ของสมเด็จย่า มายาวนานตั้งแต่ “ปี 2544” โดยมีวัตถุประสงค์หลัก คือ “เพื่อธำรงรักษาและส่งเสริมพระพุทธศาสนา ฯ”
มีการรวมตัวของกลุ่มผู้จบเปรียญธรรม “ทุกประโยค” มายาวนาน
แต่ “มักมีคำถามเสมอมา” ว่า เวลาเกิด “ปัญหา” กับพระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์ สมาคมนี้ “หายตัวไปไหน???”
แล้ววัตถุประสงค์ที่จดตั้งไว้ “เคยได้แสดงบทบาทบ้างไหม???”
สังคมต้องการความคิดเห็นเรื่องคุณธรรม จริยะรรม และศีลธรรม หรือ การที่พระพุทธศาสนาถูกรุกราน ย่ำยี พระสงฆ์ถูกกระทำย่ำยีให้เสียหาย การดำเนินคดีกับพระสงฆ์ไม่เป็นตามหลักพระธรรมวินัย
กรรมการเปรียญธรรมสมาคมที่ตั้งมาเพื่อธำรงพระพุทธศาสนาได้ทำอะไร และได้แสดง “บทบาทใดๆ ตามวัตถุประสงค์บ้างไหม???”
นอกจากนี้ ยังปรากฏว่า มีการจดตั้ง “สมาคมเปรียญธรรม 9 ประโยค” ขึ้นมาแล้วอย่างเป็นทางการ และดูเหมือนจะ “มีบทบาทมากกว่าเปรียญธรรมสมาคมแห่งประเทศไทย” พอสมควร ในการทำหน้าที่ตอบ “ข้อสงสัย” ให้แก่สังคมเกี่ยวกับประเด็นปัญหาดังกล่าว
แต่อยู่ ๆ สมาคมนี้ก็ได้ “อันตรธานไป” แบบไม่มีร่องรอย มีกระแสข่าวว่า มีความขัดแย้งกันระหว่างมหาเปรียญ 9 ประโยคที่เป็นผุ้บริหารสมาคม ก่อนจะสลายตัวกันไปตามกระแสสังคม
จริงเท็จประการใด ไม่ทราบ!
มหาเปรียญทั้งที่เป็นฝ่ายบรรพชิตและคฤหัสถ์มี “จำนวนมากมาย” แต่ผู้ที่มีความรู้ที่จะทำหน้าที่ปกป้องคุ้มครอง ตอบคำถามให้แก่สังคมเวลาพระพุทธศาสนาหรือคณะสงฆ์เผชิญปัญหา “มีไม่กี่ท่าน!”
แต่ดูเหมือนจะโดน “อำนาจลึกลับ” ตรึงไว้ไม่ให้มีปากมีเสียง!
ที่สื่อใช้เป็น “แหล่งข้อมูลตอบปัญหาพระพุทธศาสนาและสังคมสงฆ์” ได้บ้างเวลานี้ คือ “ผู้ที่ไม่ได้เป็นมหาเปรียญ!”
ส่วนผู้ที่เป็น “มหาเปรียญ” ที่ “สังคมคาดหวังมาก” ว่าจะเป็นปากเสียงได้เมื่อ “ลาสิกขา” ออกมา กลับมีพฤติกรรมทางการพูดและการกระทำ “หนักหนาสาหัส” ยิ่งกว่าผู้ที่ไม่ได้บวชเรียนเขียนอ่านเสียอีก!
ตามหลักพุทธ พฤติกรรมการพูดและการกระทำออกมาจากจิตใจ จิตใจเป็น “ตัวกำหนดการพูดและการกระทำ” ของมนุษย์


Leave a Reply