พระไม่ทิ้งโยม! อุบลฯน้ำท่วมหนักพระเสียดายแดดทนนิ่งอยู่ไม่ไหว เตรียมของช่วยผู้เดือดร้อน

วันที่ 4 ตุลาคม 2565 จากสถานการน้ำท่วมจังหวัดอุบลราชธานีอย่างหนักจากพายุโนรู พระปัญญาวิสุทธิโมลี เจ้าอาวาสวัดป่าศรีแสงธรรม อ.โขงเจียม ได้โพสต์ภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “พระปัญญาวชิรโมลี นพพร” ความว่า เห็นภาพความเดือดร้อนของพี่น้องชาวอุบลแล้ว บอกตัวเองว่าอยู่ไม่ได้แล้วต้องไป ข้าวสาร 2 ตัน กับไข่ไก่ 3,000 ฟอง วันนี้จะไปมอบให้ครัวพระราชทานที่เป็นครัวกลางแจกจ่ายอาหารให้ชาวบ้านที่เดือดร้อน หรือที่ผู้บรืจาคเข้าไม่ถึง จะมีเจ้าหน้าที่ของจังหวัดนำอาหารไปแจกจ่ายตามจุดที่มีข้อมูลแน่นอน

น้ำสูงขึ้นทุกวัน และจำนวนผู้อพยพก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ คาดว่าจะสูงกว่าน้ำท่วมปี 62 เพราะน้ำในพื้นที่อย่างเดียวก็ท่วมขนาดนี้ ถ้าน้ำจากชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ไหลมาตามลำน้ำชี ผสมกับน้ำจากโคราช บุรีรัมย์ สุรินทร์ไหลมาทางลำน้ำมูล มาบรรจบกันที่อุบลราชธานีเพื่อจะลงสู่แม่น้ำโขงตรงอำเภอโขงเจียม ในตัวเมืองคาดว่าวันที่ 8 ตุลาคม จะมีระดับสูงที่สุด และจะค่อย ๆ ลดลงจนถึงวันที่ 3 พฤศจิกายน

เมื่อวานจึงเตรียมหาของมาเพิ่มเป็นถุงยังชีพอีก 500 ชุดตอนแรกกะว่าจะจะให้ถุงละ 300 บาท อต่ลองซื้อแล้วอันนั้นก็น่าใส่อันนี้ก็น่ามีตกเข้าไปถุงละ 490 บาท กลับจากไปมอบข้าวสารก็จะมาแพ็กถุงยังชีพ ท่านใดว่าจะมาช่วยทำที่วัดป่าศรีแสงธรรมก็ยินดีช่วยกัน วัดต้องเป็นที่พึ่งทั้งยามทุกข์และยามปกติ วัดเป็นทุกอย่างของชุมชน

ทั้งนี้ยังได้บอกบุญกับผู้มีจิตศรัทธาผ่านเฟซบุ๊กดังกล่าวด้วย

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวันที่ 3 ต.ค.2565 ว่าระดับน้ำในแม่น้ำมูล แม่น้ำชี ยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้หลายอำเภอได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในครั้งนี้ พี่น้องประชาชนและสัตว์เลี้ยงต่างเดือดร้อน หลายหน่วยงานทางราชการได้เร่งให้ความช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่ด้วยการอพยพประชาชนและสัตว์เลี้ยง ขนสิ่งของขึ้นสู่ที่สูง มอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัย กำจัดผักตบชวาที่ขวางทางเดินของน้ำ และ เร่งผลักดันน้ำลงสู่แม่น้ำโขง ขณะที่ถนนสายเศรษฐกิจ ในตัวเมืองและรอบตัวเมืองอุบลราชธานีและอำเภอวารินชำราบ ต่างถูกน้ำท่วมสูง จนต้องปิดถนนหลายแห่ง

ขณะที่เทศบาลนครอุบลราชธานี ได้แจ้งถึงระดับน้ำในแม่น้ำมูลในเวลา 06.00 น. ณ สถานีสูบน้ำท่าน้ำตลาดสดเทศบาล 3 (ตลาดใหญ่) ระดับน้ำอยู่ที่ 10.42 เมตร (115.42 ม.รทก.)โดยระดับน้ำเพิ่มขึ้น จากเช้าเมื่อวานนี้ 27 เซนติเมตร อีก 55 เซนติเมตร จะเท่ากับระดับน้ำสูงสุดของปี 2562 (10.97 เมตร) ทั้งนี้ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ( สทนช.) คาดการณ์ว่า หากไม่มีพายุลูกใหม่เข้ามา ระดับน้ำในแม่น้ำมูลจะขึ้นสูงสุด ในวันที่ 6 ต.ค.65 จากนั้น ระดับน้ำจะลดลงเรื่อยๆ และจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในวันที่ 28 ต.ค.65

จากผลกระทบสถานการณ์น้ำในแม่น้ำมูล แม่น้ำชี ลำเซบก ลำเซบาย ลำห้วยสาขาต่างๆ ได้เอ่อล้นตลิ่ง ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่ทางการเกษตรของราษฎรในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ส่งผลให้พี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ไม่น้อยกว่า 8 อำเภอ อีกทั้งน้ำยังได้ท่วมถนนหนทางหลายสาย ทำให้การสัญจรไปมาลำบากจนต้องปิดถนนจุดน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะถนนสายเศรษฐกิจที่เชื่อมจากตัวเมืองอุบลราชธานี (ต้องข้ามแม่น้ำมูลตรงสะพานเสรีประชาธิปไตย) สู่ ตัวอำเภอวารินชำราบ ระยะทางยาวประมาณ 5 กิโลเมตร ได้ถูกน้ำท่วมสูง รถเล็กสัญจรผ่านไม่ได้ ทางทหารจากค่ายสรรพสิทธิประสงค์ อ.วารินชำราบ ได้นำรถยนต์ทหารที่มีขนาดสูงมาให้บริการประชาชน คอยรับส่งประชาชนที่ข้ามไปมาระหว่างตัวเมืองอุบลฯ – อ.วารินชำราบ โดยฝั่งอำเภอวารินฯ รถจะจอดรับที่ เทศบาลเมืองวารินชำราบ ส่วนฝั่งตัวเมืองอุบลฯ รถจอดรับที่ วงเวียนตรงเชิงสะพานเสรีประชาธิปไตย(วงเวียนน้ำพุเดิม) ตั้งแต่เวลา 06.00 น. – 19.00 น. ทุกวัน

ขณะเดียวกัน สภากาชาดไทย โดยสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย ร่วมกับ เหล่ากาชาดจังหวัดอุบลราชธานี ได้นำรถยูนิมอค มาให้บริการประชาชน ด้วยการคอยรับส่งพี่น้องประชาชน ที่เดินทางระหว่างตัวเมืองอุบลฯ ไปยังอำเภอวารินชำราบ ด้วยเช่นกัน โดยรถจะจอดให้บริการจุดเดียวกันกับรถยนต์ของทหารที่ออกมาให้บริการประชาชน ส่วนเส้นทาง สะพาน 100 ปี (สะพานเกรียง) ที่เชื่อมระหว่างตัวเมืองอุบลฯเริ่มจากเขตเทศบาลนครอุบลฯ ข้ามแม่น้ำมูลบริเวณหาดวัดใต้ ไปยังสะพานกุดปลาขาว อ.วารินฯใกล้สภ.วารินชำราบ ระยะทางประมาณ 5 กม.ช่วงนี้น้ำท่วมสูง รถทุกชนิกผ่านไม่ได้ จึงต้องปิดการจราจร

ทางด้าน ถนนสายเลี่ยงเมือง พื้นที่ ต.แจระแม อ.เมือง จ.อุบลฯ ซึ่งมีห้างสรรพสินค้าหลายแห่งผุดขึ้นในทำเลนี้ ก็ได้ถูกน้ำในแม่น้ำมูลน้อย และมูลใหญ่ เอ่อล้นขึ้นมาไหลท่วมถนนเป็นระยะทางยาวกว่า 5 กิโลเมตร ตั้งแต่ เชิงสะพานมูลบ้านท่ากกแห่ ต.แจระแม มาจนถึง พื้นที่บ้านทัพไทย ต.แจระแม จนรถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ในบางช่วง และบางช่วงต้องปิดถนนด้านขวา แล้วให้แล่นสวนกันด้านซ้าย (ถนน 4 เลน ) และ ภายในตัวเมืองอุบลฯ เขตเทสบาลนครอุบลฯ ชุมชนบูรพา และ บ้านดู่ ต.ในเมือง ระดับน้ำท่วมสูงเช่นกัน ทำให้การจราจรจากบ้านดู มุ่งสู่ห้วยวังนอง บางจุด รถเล้กผ่านไม่ได้เช่นเดียวกัน ในขณะที่ ถนนสาย 226 วารินชำราบ-ศรีสะเกษ ช่วงห้วยพับ บ้านท่าเจริญ ต.ท่าลาด อ.วารินชำราบ จ.อุบลฯ ก็ถูกน้ำในแม่น้ำมูล น้ำในลำห้วยขะยุง และห้วยพับ ได้เอ่อล้นท่วมถนนระดับน้ำประมาณ 50 ซม. ทาง อบต.ท่าลาด และ หน่วยงานราชการต่างๆ ได้ออกมาให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว

อนึ่ง สำหรับผู้ที่มีความจำเป็นต้องเดินทางจาก อ.วารินชำราบ ไปจ.ศรีสะเกษ โดยใช้เส้นทาง 226 นั้น ช่วงนี้น้ำท่วมสูงช่วงตำบลห้วยขะยุง อ.วารินฯจ.อุบลฯ-พื้นที่ อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ เส้นทางดังกล่าวจึงปิดการจราจร จึงขอให้ใช้เส้นทางเลี่ยง ดังนี้ มาจากศรีสะเกษ ถึงอ.กันทรารมย์ ให้เลี้ยวขวาออกไปทางกันทรลักษ์ ถึงแยกหนองงูเหลือม (36กม.) ให้เลี้ยวซ้ายมาทาง อ.สำโรงแล้ว เข้าอ.วารินชำราบ จ.อุบลฯ หรือ จากสี่แยกกันทรารมย์ เลี้ยวซ้ายข้ามทางรถไฟมาทาง อ.ยางชุมน้อย (ทล.2086) ถึงบ้านเหม้า (6.7กม.) แล้ว เลี้ยวขวา ตรงไปบ้านกอก (11.2กม.) เลี้ยวขวาที่บ้านกอก ผ่านหมู่บ้านไปตามทางลาดยาง ซึ่งเป็นทางโค้ง ระยะทาง 3 กม. เลี้ยวซ้าย ขึ้นสะพาน ข้ามแม่น้ำมูล ที่สันเขื่อนหัวนา แล้วตรงไป ถึง ทล.226 ระยะทาง 1.8 กม.แล้วเลี้ยวซ้าย สู่ทางหลวงสาย 226 ที่บ้านท่าลาด ต.ท่าลาด อ.วารินฯ แล้วมุ่งหน้าสู่ อ.วารินชำราบ จ.อุบลฯ ต่อไป

Leave a Reply