หลายปีมานี้คณะสงฆ์ระดับเจ้าพระสังฆาธิการ ระดับเจ้าคณะปกครองในภูมิภาค ถามหากันมามากว่าเงินกองทุน “วัดช่วยวัด” ที่ต้องบริจาคเงินเดือนหรือนิตยภัต ทอดผ้าป่าให้ทุกปี หายไปไหน มีเท่าไร ทำไมในยุคที่คณะสงฆ์เจอวิกฤติทั้งการระบาดของโรคโควิด-19 บางวัดเจอไฟไหม้ น้ำท่วม หรือแม้กระทั้งมีพระภิกษุ สามเณรบางวัดอยู่ถิ่นทุรกันดาร มรณภาพไร้ญาติขาดมิตร เงินทองทุนที่ตั้งวัตถุประสงค์ไว้สวยหรูสรุปแล้ว หายไปไหน ทำไมไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ และ “ใครมีอำนาจ” เบิกจ่ายกันแน่ ระหว่าง คณะสงฆ์ หรือ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ??
ตามประวัติความเป็นมาของ “กองทุนวัดช่วยวัด” ปรากฎหลักฐานว่า นายสุทธิวงศ์ ตันตยาพิศาลสุทธิ์ รองอธิบดีกรมการศาสนา รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ อ้างถึงมติมหาเถรสมาคมที่ 436/2545 กราบทูลให้ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร สกลมหาสังฆปริณายก รับกองทุนวัดช่วยวัดไว้ในพระสังฆราชูปถัมภ์ ซึ่งต่อมาพระองค์ก็รับกองทุนไว้ช่วยวัดไว้ในพระอุปถัมภ์ และต่อมาในปี 2546 คณะกรรมการช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติและอุบัติภัย (กองทุนวัดช่วย) ได้มีมติหลักการในการหาเงินเข้ากองทันไว้ ดังนี้
1.ขอรับบริจาคนิตยภัตจากพระสังฆาธิการทุกระดับ 1 เดือน โดยกำหนดเดือนมกราคมของทุก ๆ ปี
2.จัดให้มีการแสดงธรรมเทศนาในวันอาสาฬหบูชาพร้อมกันทุกวัน ทั่วประเทศ เพื่อรวบรวมปัจจัยเข้ากองทุน
3.จัดงานทอดผ้าป่าที่ท้องสนามหลวงในวันวิสาขบูชา
4.ให้วัดทุกวันจัดทอดผ้าป่าเพื่อรวบรวมปัจจัยส่งเข้ากองทุนปีละอย่างน้อย 1 ครั้ง
5.ตั้งตู้รับบริจาคในวัดต่าง ๆ ตามที่เจ้าคณะภาคเห็นสมควร เช่น วัดพระปฐมเจดีย์ วัดโสธรวราราม เป็นต้น
ในปี 2561 มีการออกมติระเบียบมหาเถรสมาคมว่าด้วยกองทุนวัดช่วยวัดขึ้นมาใหม่ มีทั้งหมด 7 หมวด 23 ข้อ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประธานกรรมการมหาเถรสมาคม ประกาศลงพระนามเห็นชอบ เมื่อวันที่ 20 เดือนมกราคม 2562 และเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2562 ที่ประชุมได้มีมติแต่งตั้งประธานกรรมการ และรองประธานกรรมการกองทุน “วัดช่วยวัด” ตามระเบียบมหาเถรสมาคม ว่าด้วยกองทุน “วัดช่วยวัด” พ.ศ.2562 คือ พระวิสุทธิวงศาจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม วัดปากน้ำ กรุงเทพมหานคร เป็นประธานกรรมการ (มรณภาพแล้ว) และ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ กรรมการมหาเถรสมาคม วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม กรุงเทพมหานคร เป็น รองประธานกรรมการ
ตั้งแต่นั้นมาเงินกองทุน “วัดช่วยวัด” ก็ไม่มีข่าวสารอะไรสู่สาธารณชนอีกเลย ไม่รู้ว่าประธานและรองประธาน ที่คุมเงิน “กองทุนวัดช่วยวัด” รู้หรือเปล่าว่า ตอนนี้บัญชีเงินฝากอยู่ที่ไหน มีจำนวนเงินอยู่เท่าไร และมีการเบิกใช้จ่ายอะไรไปแล้วบ้าง
“ผู้เขียน” สอบถาม พระเทพเวที เจ้าคณะภาค 6 พอสรุปใจความได้ว่า ทุกอย่างมีกฎระเบียบอยู่แล้ว มหาเถรสมาคมตั้งคณะกรรมการเรียบร้อยแล้ว ในปี 2562 เงินกองทุนวัดช่วยวัดมีอยู่ประมาณ 120 ล้านบาท ณ ตอนนี้คงมีมากกว่านี้ ซึ่งจากกองทุนตรงนี้เจ้าคณะจังหวัดโดยความเห็นชอบของเจ้าคณะภาคมีอำนาจเบิกงบได้ครั้งละไม่เกิน 1 แสนบาท แต่ต้องสำรองจ่ายไปก่อน ส่วนประธานและรองประธานสำรองจ่ายได้ครั้งละไม่เกิน 5 แสนบาท เมื่อถามต่อว่า ทำไมตอนนี้กองทุนเงินวัดช่วยวัด จึงไม่นำเงินที่มีร้อยกว่าล้านบาทที่เป็นเงินของคณะสงฆ์แท้ ๆ ออกมาช่วยเหลือพระภิกษุสงฆ์ วัดที่ประสบภัยไฟไหม้ หรือตอนน้ำท่วมบ้าง พระเทพเวที บอกต้องถาม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
“ผู้เขียน” ไปเปิดดูระเบียบมหาเถรสมาคมทั้ง 23 ข้อ ไปสะดุดตรงคณะกรรมการที่เป็นบอร์ดใหญ่ คือ มีสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นฝ่ายเลขานุการ ถึงบ้างอ้อ??
ไม่มีคนทำงาน ไม่มีคนนัดประชุม ไม่มีคนชงเรื่อง ไม่มีคนสั่งการ จึงไม่มีคนเบิกจ่าย
คณะสงฆ์จึงมีหน้าที่หักเงินนิตยภัตส่งเข้ากองทุนอย่างเดียว??..เงินของตัวเองแท้ ๆ แต่นำมาใช้ไม่ได้!!
วิบากกรรมจึงตกอยู่กับเจ้าอาวาส 4 หมื่นกว่าวัด พระภิกษุ -สามเณร 2 แสนกว่ารูป
คณะสงฆ์ต้องกล้า “แอคชั่น” ทวงถามความเป็นธรรมกันหน่อยแล้วมั่งครับ
สิทธิอันพึงได้ หากไม่รู้จักทวงถามและและไม่รู้จักใช้..เขาจะหาว่าเราโง่ได้นะครับ!!
หมายเหตุ..เป็นงานเขียนข้อมูลเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2566
Leave a Reply