ฝากการบ้าน “รัฐบาลก้าวไกล” สะสางคดี “วิกฤติคณะสงฆ์”  

คาดว่าอีกไม่นานประเทศไทยได้รัฐบาลใหม่แล้ว ภายใต้การนำของ “พรรคก้าวไกล”  หลังจากการเลือกเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ประชาชน “ปิดสวิตช์ 3 ป.” ได้สำเร็จ  หลังจาก 3 ป. ปกครองประเทศไทยมา 8 ปีกว่า ๆ ท่ามกลางความรู้สึกจำนวนคนไทยหลายสิบล้านคน “ติดลบ”

 ตลอดระยะเวลา 8 ปี “รัฐบาลประยุทธ์” ไม่ได้สร้างความบอบซ้ำให้เฉพาะความรู้สึกของคนไทยจำนวนมากเท่านั้น แม้แต่  “คณะสงฆ์” ก็สร้างความบอบซ้ำให้ไม่น้อย ทั้งเรื่อง การไล่พระออกจากป่า ทุบสำนักสงฆ์ ปิดวิทยุธรรมะ จนพระสายวัดป่าประกาศ “คว่ำบาตร”  และที่ร้ายแรงที่สุดคือ การจับกุมพระมหาเถระระดับมหาเถรสมาคมจำนวน  3 รูป ตั้งข้อหาคดี “เงินทอนวัด” ยัดใส่คุก  หรือ  ปิดล้อมวัดธรรมกายตั้งคดีให้ “พระธัมมชโย” อดีตเจ้าอาวาสวัดธรรมกาย พร้อมทั้งถอดสมณศักดิ์โดยพ่วง “พระทัตตชีโว” ด้วยอีกรูป  ทั้งสองคดีทำให้ทั้งคนไทยและนานาชาติดูถูกดูแคลน “คณะสงฆ์”  พร้อมทั้งมองพระพุทธศาสนาใน “แง่ลบ” อันนี้ไม่นับรวมปล่อยให้เกิด “กลุ่มบุคคล” แอบอ้างปลด “เจ้าคณะจังหวัด” อย่างน้อย  3 รูป ที่กระทบต่อสถาบันมากที่สุดคือปลด “จังหวัดกาฬสินธุ์”

ตราบาปอันเป็น “รอยด่าง” ของรัฐบาลประยุทธ์ ต่อจากนี้ไปคือ “บ่วงกรรม” ที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และพรรคพวก จะต้องแบกรับ “ติดตัว” ไปตลอดภพชาติดัง  “เงาติดตัว” ไปฉะนั้น

ฉับพลัน!! ที่พรรคก้าวไกล ชนะเลือกตั้งโดยจับมือกับ “พรรคเพื่อไทย” ความหวังที่จะ “กอบกู้” และ “ฟื้นฟู” ประเทศไทยในหลากหลายมิติ ทั้งเรื่องความเหลื่อมล้ำทางสังคม เศรษฐกิจ รัฐธรรมนูญ หรือแม้กระทั้งคดีการเมือง

“เปรียญสิบ” ขอฝากการบ้านให้ “รัฐบาลใหม่”  เข้ามาสะสางอย่างน้อยสัก  2-3 เรื่อง เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับคณะสงฆ์ คือ หนึ่ง คดีเงินทอนวัด และคดีวัดพระธรรมกาย  อาจต้องตั้งคณะกรรมการสะสางเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น คำซุบซิบนินทาที่ว่ามีคณะบุคคลทั้งฆราวาสและพระภิกษุสงฆ์แอบอ้างและร่วมกันจับยัดคดีให้มีจริงหรือไม่ การคืนความเป็นธรรมให้กับพระมหาเถระเหล่านี้จะเยียวยาท่านได้อย่าง ตอนนี้แม้ “พระพรหมดิลก” วัดสามพระยา ได้รับคืน “สมณศักดิ์”แล้ว  แต่วัดสระเกศ วัดสัมพันธวงศ์ ยัง “ลูกผีลูกคน”  ทั้ง ๆ ที่ศาลท่านวินิจฉัยแล้วว่า “ไม่ผิด”  เพราะไม่ได้ทุจริต

แต่ทำไมขั้นตอนเยียวยาคืน “สมณศักดิ์” จึงสะดุดทั้ง ๆ ที่ “ไฟเขียว” เปิดแล้ว มันเกิดจาก กรรมการมหาเถรสมาคมบางรูป สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติหรือมี “ไอ้โม่ง” ตัวไหนคอย “ขัดขวาง”

อาจมีคนตั้งคำถามว่าวัดสระเกศ วัดสัมพันธวงศ์ ติด “มติมหาเถรสมาคม” เรื่องสอบอธิกรณ์ ถามต่อว่าแล้ว “พระพรหมดิลก”ไม่ติดอธิกรณ์ใช่หรือไม่ เพราะอะไรจึงไม่ติด หากอ้างแบบนี้มหาเถรสมาคม “เลือกปฎิบัติ” ใช่หรือไม่ หากมีกรณีแบบนี้ ระวังมีคนประเคนมาตรา 157 ให้ รวมทั้งคดีวัดพระธรรมกายต้องคืนความเป็นธรรมให้กับ “พระธัมมชโย-พระทัตตชีโว”  รัฐบาลชุดใหม่ต้องสร้างกฎหมายให้อยู่ภายใต้ “บรรทัดฐาน” เดียวกันสมกับความหวังที่ประชาชนมอบให้

ตลอดระยะเวลา  8 ปีกว่า ๆ มีเรื่องมากมายที่ “รัฐบาลประยุทธ์” สร้างความ “บอบช้ำ” ไว้กับสถาบันสงฆ์ ที่รัฐบาลชุดใหม่ต้องเข้ามาสะสาง นอกจาก คดีเงินทอนวัด คดีวัดธรรมกายแล้ว ยังมี พ.ร.บ.คณะสงฆ์อีกด้วย ที่รัฐบาลพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย จะต้องร่วมกันแก้ไข โดยเฉพาะ “การกระจายอำนาจ” ออกไปสู่ภูมิภาค  มิใช่ปล่อยให้ กรรมการมหาเถรสมาคม 21 รูป  รวบอำนาจทั้งบริหาร นิติบัญญัติและตุลาการ กระตุกตัวอยู่ในส่วนกลางกุมชะตาชีวิตคณะสงฆ์เกือบ 3 แสนรูปอยู่แบบนี้  รวมทั้ง “ใส่ใจดู”  ว่า ตั้งแต่ “ประยุทธ์” เป็น “รัฐบาล” มาตลอด 8 ปีมานี้ คณะสงฆ์ต้อง “คดี” อะไรบ้าง ที่ “เข้าข่าย” อยุติธรรม!!  ออกกฎหมาย มติมหาเถรสมาคมอะไรบ้าง ที่ หมิ่นเหม่” ทำให้หัวใจคนรัก “ความยุติธรรม” เต้นแรง ได้แต่กำหมัด..แต่ไม่กล้าปริปาก

 และเมื่อเข้ามาบริหารประเทศชาติแล้วขอให้ติดตาม “งบประมาณ” เงินเดือน ค่าตอบแทน ตามสิทธิอันพึงได้ ตาม พ.ร.บ. การศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ. 2562 ให้ด้วยจะเป็นพระคุณอย่างสูงต่อบุคคลการหลายหมื่นรูป/คน

อันนี้การบ้านเฉพาะหน้าที่อยากจะฝากให้ไป “ขุดคุ้ย” ชำแหละออกมาสู่สังคมไทย ใครทำอะไรไว้กับพระพุทธศาสนาบ้าง ส่วนเรื่องนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและประชาชน รวมทั้งพ่วง “คะแนนเสียง” ได้ด้วย อย่างประเด็นอ่อนไหว “ชาวพุทธชายแดนใต้”  เอาไว้คิดออกเมื่อไรจะเสนอครับ..

 

คอลัมย์ : ริ้วผ้าเหลือง

โดย..เปรียญสิบ

Leave a Reply