วันที่ 10 กันยายน 2566 หลังจากเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชนมีผู้เสียชีวิตจำนวน 2 ศพ คือ ยายผู้ป่วยติดเตียง และหลานชายวัย 3 ขวบ ถูกไฟคลอกดับอันเป็นที่น่าสลดใจ รวมทั้งบ้านได้ถูกอัคคีภัยไหม้ทำลายไปทั้งหลัง ณ บ้านเลขที่ 72 หมู่ 11 ต.หลุมข้าว อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
พระเทพเสนาบดี เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี ได้เปิดเผยเรื่องนี้ว่า วันที่เกิดเหตุคือวันที่ 6 กันยายน อาตมาลงพื้นที่โครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 อยู่ที่จังหวัดสุพรรณบุรี ได้รับแจ้งจากพระสงฆ์ในจังหวัดว่าบ้านประชาชนในอำเภอโคกสำโรงถูกเพลิงไหม้มีคนเสียชีวิต เบื้องต้นตอนนั้นได้มอบเงินจำนวนหนึ่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดไปดำเนินการช่วยเหลือ เป็นน่าสงสารมาก ยายป่วยติดเตียง มีลูกสาวคอยดูแล จังหวะที่ออกไปข้างนอกเพื่อไปซื้อข้าวมากินกัน เกิดเหตุการณ์สลดขึ้น ส่วนลูกชายอายุ 3 ขวบทุกวันไปโรงเรียน แต่วันนั้นเกิดป่วยจึงหยุดเรียน คุณแม่ที่ดูแลยายเห็นว่าลูกชายวัยกำลังซนกลัวออกจากบ้าน จึงปิดประตูบ้านเอาไว้ เด็กยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เมื่อเกิดเพลิงไหม้บ้าน จึงเกิดเหตุการณ์สลดขึ้น
“ในวันพฤหัสบดีที่ 14 กันยายนนี้ อาตมาจะลงพื้นที่พร้อมกับคณะสงฆ์และส่วนราชการ เพื่อไปดูและเข้าไปช่วยเหลือ ในการนี้ได้ปรึกษากับคณะสงฆ์จังหวัดลพบุรี ว่าจะร่วมกันสร้างบ้านเพื่อเป็นที่พักอาศัย ขนาดกว้าง 6 เมตร ยาว 9 เมตร อาคารชั้นเดียว ตั้งงบไว้ประมาณ 3 แสนบาท ส่วนค่าแรงน่าจะมีกลุ่มจิตอาสามาช่วย ตอนนี้มีพระเถระผู้ใหญ่หลายรูปร่วมบริจาคมาแล้ว เช่น พระพรหมเสนาบดี เจ้าคณะภาค 7 เจ้าคณะจังหวัดสระบุรี พระโสภณพัฒนคุณ วัดเศรษฐีเรือทอง และอีกหลายรูป แต่ยังขาดอีกจำนวนหนึ่ง คาดว่ากว่าจะถึงงานน่าจะได้ครบ หากพระเถระรูปใดอยากจะบริจาค หรือญาติโยมคนไหนมีความประสงค์ ก็ติดต่อมาร่วมบริจาคได้ ตอนนี้ญาติโดยเฉพาะแม่ของเด็ก ที่ยังไม่มีบ้านใหม่ เราต้องเยียวยาให้กำลังใจทั้งทางด้านจิตใจและทางร่างกายให้เขาอยู่ต่อไปให้ได้ ซึ่งเรื่องนี้คณะสงฆ์จังหวัดลพบุรี ไม่ทิ้งประชาชนแน่ ๆ..”
Leave a Reply