วันที่ 11 กันยายน 2566 ณ วัดเกิดการอุดม ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พระธรรมวชิรานุวัตร เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ในฐานะประธานกรรมการบริหารกลางโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา “หมู่บ้านรักษาศีล 5” พระธรรมรัตนมงคล เจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการอำนวยการ พระเทพปวรเมธี ประธานการขับเคลื่อนหมู่บ้านรักษาศีล 5 หนกลาง พระเทพเสนาบดี รองประธานคณะกรรมการบริหารกลาง พระเทพปริยัติโสภณ รองประธานกรรมการ “หมู่บ้านรักษาศีล 5” หนกลาง พร้อมผู้แทนคณะกรรมการบริหารกลาง คณะกรรมการขับเคลื่อนระดับหนกลาง และผู้เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมติดตามผลการการดำเนินงานโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ฯ “หมู่บ้านรักษาศีล5” โดยมีคณะสงฆ์ในจังหวัดปทุมธานี ประกอบด้วย พระธรรมรัตนาภรณ์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 1 วัดเขียนเขต พระราชสุทธิธรรมาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี พระราชวรเมธาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี (ธ.) พระครูวิจิตรอาภากร พระมหาประดิษฐ์ สุขวโร เจ้าอาวาสวัดเกิดการอุดุม พระสังฆาธิการในจังหวัด ในขณะที่ฝ่ายบ้านเมืองประกอบด้วย นายอดิเทพ กมลเวชช์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี นายนิติชัย วิริยานน์ นายอำเภอคลองหลวง ดร.วีระศักดิ์ ฮาดดา นายกอบต.คลองสาม หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ปกครองส่วนท้องถิ่นทุกส่วนงาน และพี่น้องประชาชนทุกภาคส่วน ให้การถวายการต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการตรวจเยี่ยมอย่างพร้อมเพรียงกัน

พระเทพปวรเมธี กล่าวว่า การลงพื้นที่จังหวัดปทุมธานี เป็นไปตามนโยบายของมหาเถรสมาคม ที่ต้องการมาติดตามและประเมินผลการดำเนินโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 ภายใต้กรอบการประเมิน 4 หมวดด้วยกัน ซึ่งคณะกรรมการหมู่บ้านรักษาศีล 5 ลงพื้นที่แบบนี้ทั่วประเทศ แต่ในหนกลางที่ตนเองรับผิดชอบอยู่มีทั้งหมด 23 จังหวัดลงไปแล้ว 16 จังหวัด รวมวันนี้ด้วยเป็น 17 จังหวัด การประเมินวางกรอบไว้ 4 หมวด เรื่อง ฐานข้อมูลหมู่บ้าน กิจการมการส่งเสริมการรักษาศีล 5 กิจการส่งเสริมการปฎิบัติธรรม และ การบูรณาการร่วมกันระหว่างหมู่บ้านรักษาศีล 5 กับ หมู่บ้านยั่งยืน ที่ทางคณะสงฆ์ได้ทำบันทึกข้อตกลงไว้กับกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 ตั้งแต่ท่านดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี
“ศีล 5 ถือว่าเป็นพื้นฐานหลักประกันสำคัญของมนุษย์ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใด หลักประกันที่ว่าคือหลักประกันชีวิต หลักประกันในทรัพย์สิน หลักประกันเรื่องครอบครัว หลักประกันเรื่องสังคม และสุดท้าย คือ หลักประกันเรื่องสุขภาพ ซึ่งเรื่องที่คณะสงฆ์และฝ่ายบ้านเมืองกำลังทำอยู่นี้ สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีที่จะไปนำสู่ความยั่งยืน 3 ประการ คือ สังคมดี เศรษฐกิจดีและสิ่งแวดล้อมดี”

ทางด้าน นายอดิเทพ กมลเวชช์ ได้นำข้าราชการ หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ แกนนำท่องถิ่น พร้อมประชาชน ได้กล่าวปฎิญาณต่อคณะสงฆ์ 5 ประการ คือ หนึ่ง จะยึดมั่นจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สอง จะนำหลักพระพุทธศาสนานำไปใช้ในชีวิตประจำวัน สาม จะยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในการดำเนินชีวีต สี่ จะร่วมกันสร้าง ความปรองดอง สามัคคี ความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นในสังคม และ ห้า จะช่วยกันรักษาความสงบ แก้ไขปัญหายาเสพติด นำความสันติสุขสู่สังคม..


Leave a Reply