วันนี้ (6 มิ.ย. 67) เวลา 14.30 น. ที่วัดกลาง พระอารามหลวง ตำบลในเมือง อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ลงพื้นที่ติดตามความพร้อมแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์เพื่อประกอบพิธีทำน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยได้รับเมตตาจาก พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระธรรมวชิรสุตาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดบุรีรัมย์ เจ้าอาวาสวัดกลาง พระอารามหลวง นำเยี่ยมชมพร้อมเล่าประวัติความเป็นมาโดยสังเขป โดยมี นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง นายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายเอกวิทย์ มีเพียร นายสุรพล เจริญภูมิ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายจำเริญ แหวนเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ หัวหน้าส่วนราชการ นายกันวลินทร์ เมืองแก้ว นายอำเภอเมืองบุรีรัมย์ นางสิรินันท์ มณีราชกิจ รองนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่
พระธรรมวชิรสุตาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดบุรีรัมย์ เจ้าอาวาสวัดกลาง พระอารามหลวง กล่าวว่า บ่อน้ำแห่งนี้มีชื่อว่า บ่อน้ำสระสิงโต สันนิษฐานว่าบริเวณนี้ในอดีตเป็นป่าที่มีสิงโตอาศัยอยู่ จึงเป็นที่มาการตั้งชื่อว่า “สระสิงโต” สำหรับในส่วนของตำนานแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ของสระสิงโตแห่งนี้ ตามตำนานเล่าว่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช องค์ปฐมกษัตริย์แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ เสด็จพระราชดำเนินยาตราทัพมาพักอยู่ที่เมืองบุรีรัมย์ และมีการประกอบพิธีดื่มน้ำพระพิพัฒน์สัตยา ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีการตักน้ำในสระสิงโตไปประกอบพิธีเสกน้ำในอุโบสถซึ่งประดิษฐ์สถานหลวงพ่อโต เพื่อเชิญไปทูลเกล้าทูลกระหม่อม ถวายเนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และพระราชพิธีที่สำคัญ ซึ่งได้ปฏิบัติมาจวบจนถึงรัชกาลปัจจุบัน นอกจากนี้ น้ำในบ่อน้ำแห่งนี้เป็นน้ำที่ใช้อุปโภคบริโภคของประชาชนทั้งเมืองบุรีรัมย์ในอดีตที่ยังไม่มีน้ำประปา และประชาชนก็จะตักน้ำไปขอพรจากหลวงพ่อโต ใช้ดื่ม ใช้อาบเพื่อความเป็นสิริมงคล เพราะบริเวณโดยรอบสระแห่งนี้ มีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัดบุรีรัมย์ นับเนื่องแต่ศาลหลักเมือง และพื้นที่ใต้วัดกลาง พระอารามหลวงแห่งนี้ กรมศิลปากรสันนิษฐานว่าน่าจะเป็น ศาสนสถาน ปราสาทขอมดั้งเดิม และในส่วนของอุโบสถหลังนี้ ก็เป็นหลังที่ 2 เพราะเดิมนั้นเป็นอุโบสถไม้ ต่อมาพระมหาสุพจน์ โชติญาโณ อดีตเจ้าอาวาส รูปที่ 8 ได้ริเริ่มก่อสร้างอุโบสถหลังใหม่ แต่การยังไม่แล้วเสร็จ ท่านก็มรณภาพลง อาตมภาพมารับตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อจากท่าน จึงได้สานต่อกระทั่งสำเร็จลุล่วง
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้ดำเนินการจัดพิธีทำน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้แจ้งให้ทุกจังหวัด สำรวจและบำรุงรักษาแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ แหล่งน้ำที่เคยใช้ทำน้ำอภิเษกในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เมื่อปี พ.ศ. 2562 ให้คงอยู่ในสภาพที่ใสสะอาด พร้อมทั้งดำเนินการพัฒนาภูมิทัศน์โดยรอบให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย สวยงาม มีความพร้อมที่จะนำน้ำไปประกอบพระราชพิธีสำคัญ ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มอบนโยบายและเน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดดำเนินการเตรียมความพร้อมในการจัดทำน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ของ 76 จังหวัดทั่วประเทศ ให้ไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ




Leave a Reply