“ผู้เขียน” เป็นผู้หนึ่งที่เชื่อมาตลอดมา “พุทธมณฑล” คือ ศูนย์กลางพระพุทธศาสนาโลกและศูนย์กลางพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย เนื่องจากวัตถุประสงค์ตอนสร้างมันเป็นเช่นนั้น ยิ่งตอนหลังช่วงการ มีแผนยุทธศาสตร์ปฎิรูปกิจการพระพุทธศาสนา “พุทธมณฑล” คือเป้าหมายหนึ่งที่รัฐบาลและมหาเถรสมาคม “สร้างฝัน” ให้เป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาโลก เดิมของบประมาณสนับสนุนประมาณ 6,000 ล้านบาทด้วยซ้ำไป
“ผู้เขียน” พยายามติดตาม “ผลปฎิบัติ” ตามมติ “มหาเถรสมาคม” และ “คณะรัฐมนตรี” มาตลอด 7 ปีผ่านมา พุทธมณฑล ก็เป็นได้แค่ สถานที่ออกกำลังกายเท่านั่น ซ้ำอาคารต่าง ๆ หลังสิ้น “สมเด็จวัดปากน้ำ” และ “สมเด็จวัดพิชัยญาติ” ไร้ “พระผู้ใหญ่” ที่มีบารมีเข้าไปสนับสนุนดูแล
ปัจจุบัน “วัดพระธรรมกาย” ต่างหากที่มีผลงานโดดเด่น มีจำนวนประชาชนทั้งชาวไทยและนานาชาติมาร่วมปฎิบัติธรรม มาร่วมกิจกรรมตลอดทั้งปี โดยเฉพาะ “วันอาทิตย์ต้นเดือน” ผู้คนมาร่วมปฎิบัติธรรมนับหมื่นคน เดินทางมาจากทั่วประเทศ ตอนหลัง ๆ มีกลุ่มชาติพันธุ์มาร่วมกิจกรรมนับวันเพิ่มจำนวนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ยิ่งกว่านั้น
“วัดพระธรรมกาย” มีการบริหารจัดการที่เป็น “ระบบ” มีชาวพุทธสนับสนุนมากกว่างานของ “มหาเถรสมาคม” และ “มากกว่า” สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
“ผู้เขียน” ถามพระคุณเจ้าภายในวัดพระธรรมกายที่รู้จักกัน เล่าว่า “วัดพระธรรมกาย” มีการบริหารจัดการคล้ายกับ “มหาวิทยาลัย” คือ เดิมมีสำนักอย่างน้อย 13 สำนัก และมี “บอร์ดบริหาร” สำนักเหล่านี้และบอร์ด จะบริหารจัดการทั้งวัดสาขาในต่างประเทศประมาณ 100 สาขา และประเทศไทยก็มีเป็นร้อยสาขาเช่นกัน
มีการ “ผูกมิตร” กับทั่วโลก ช่วงกฐินเดินทางไปไปทอดกฐินวัดในต่างประเทศ อาทิ ประเทศอินเดีย เนปาล พม่า เวียดนาม ลาว กัมพูชา อินโดนีเซีย เป็นต้น ด้วยเงินที่คนบริจาค 1,200 ล้านนั่นแหละ
ซ้ำมี “พระสงฆ์”นานาชาติ เดินทางมาศึกษาดูงานที่วัดพระธรรมกาย ทั่วโลก เพื่อกลับไปพัฒนางานพระศาสนาในประเทศตนเอง บางคราวก็มี “พระภิกษุ” จากวัดพระธรรมกายร่วมเดินทางไปช่วยวางแผนให้ด้วย
หากมองเข้าไปในวัด สถานที่ของวัดพระธรรมกายก็รื่นรมย์ สะอาดเป็นระเบียบ ทั้งห้องน้ำ อาคารปฎิบัติธรรม กัลยาณมิตรที่เดินทางมาปฎิบัติธรรมก็ยิ้มแย้มแจ่มใจ มีพระภิกษุสามเณรจำพรรษาประมาณ 2,000 รูป ซ้ำการสอบบาลีก็ติดอันดับ แม้ไม่ใช่ที่หนึ่งของประเทศก็ถือว่าเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ
“วัดพระธรรมกาย” จึงเป็นศูนย์กลางพุทธศาสนาโลกตัวจริง เสียงจริง และ ของจริง
ล่าสุดมีกิจกรรมงาน “ทอดผ้าป่า” เข้าใจว่าเพื่อช่วยเหลือ “วัด” ในประเทศเมียนมา เนื่องจากมีกลุ่มชาติพันธุ์ในพม่า รวมทั้งคณะสงฆ์มาร่วมเป็นจำนวนนับพันคน
ยิ่งช่วง “งานบุญ” สำคัญของวัด เช่น วัดเกิดของเจ้าอาวาส วัดมอบทุนการศึกษาให้กับสำนักเรียนบาลี วันสมาธิโลก วันสำคัญต่าง ๆ มีการนิมนต์ เชิญ ประมุขสงฆ์ แกนนำชาวพุทธมาร่วมเป็นจำนวนมาก
ในขณะที่พุทธมณฑล “ศูนย์กลางพระพุทธศาสนาโลก” กลับเงียบแหงา ไม่มีประเทศใดมาศึกษาดูงาน ไม่มีชาวพุทธไปร่วมทำกิจกรรมศาสนา อาจมีบ้างก็เฉพาะที่รัฐจัดขึ้นเท่านั่น แล้วแบบนี้ จะให้ผู้เขียนหรือชาวพุทธเชื่อต่อไปอีกอย่างไรว่า.. พุทธมณฑล คือ ศูนย์กลางพระพุทธศาสนาโลก
Leave a Reply