วันที่ 25 ธันวาคม 2561 พระสุวรรณเมธาภรณ์ ผศ.ดร. รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) ประธานที่ปรึกษาโครงการมหาพุทธบารมีสู่ศรีลังกาดินแดนรุ่งเรืองทางพระพุทธศาสนา พระศรีธรรมภาณี ดร. ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายบริหาร มจร ผอ.สนง.พระสอนศีลธรรม มจร รองประธานที่ปรึกษาโครงการ ดร.ประสิทธิ์ บุตรศรี ประธาน สถาบันสื่อมวลชนชาวพุทธแห่งประเทศไทย ประธานโครงการ นำคณะชาวพุทธไทย 21 รูป/คน เดินทางไปยังศรีลังกาเพื่อถวายพระพุทธรูป จำนวน 31 องค์ซึ่งบริจาคโดยชาวพุทธไทยให้แก่วัด และองค์การทางพระพุทธศาสนา ณ วัดไทยพระปฐมเจดีย์ศรีลังกา เนื่องในโอกาสฉลอง 265 ปี การก่อตั้งนิกายสยามวงศ์ศรีลังกา และฉลอง 20 ปีวิสาขบูชาโลก โดยคณะชาวพุทธไทยเดินทางถึงสนามบินบันดารานายเก กรุงโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา โดยสวัสดิภาพ ในวันที่ 21 ธ.ค.2561 และได้รับการต้อนรับจากผู้แทนชาวพุทธศรีลังกา ณ สนาบินบันดารานายเกอย่างอบอุ่นยิ่ง
ต่อมาเฟซบุ๊กศรีธรรมภาณี โกวิโล ได้โพสต์ข้อความว่า พระรตนภิกขุ พระสงฆ์นิกายสยามวงศ์ ศรีลังกา เป็นพระสงฆ์ที่เป็น สมาชิกผู้แทนราษฎร (สส.) รูปเดียวในรัฐบาลปัจจุบัน ซึ่งมีบทบาทมากในสภา ท่านอภิปรายต่อต้านคัดค้านการนำสารเคมีมาใช้ในภาคเกษตรกรรม ซึ่งจะต้องต่อสู้กับ รมว.กับพ่อค้านายทุน ตปท.ที่เอาเงินทุ่มแลกผลประโยชน์กัน นายทุนติดสินบน รมว. / รมว.เห็นประโยขน์ส่วนตน อนุญาตให้พ่อค้านำสารเคมีนำมาขายใช้ในภาคการเกษตร ส่งผลให้ผู้บริโภค เจ็บป่วย ล้มตาย พิการ เพราะสารพิษเข้าไปทำลายระบบการทำงานในร่างกาย ทุพลภาพ ท่านเล่าให้คณะของเราได้ฟังว่า ท่านซาบซึ้งในหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.9 ท่านก็ได้ดำเนินรอยตามเหมือนพระเจ้าอยู่หัวของเรา
เมื่อถามว่า ท่านมองอย่างไรกับบทบาทของพระไทยกับสังคมไทย ท่านมองว่า พระสงฆ์ไทยเคร่งครัดวินัย จนทำงานเพื่อสังคมลำบาก ผิดกับพระสงฆ์ศรีลังกา พระกับชาวบ้านจะผนึกทำงานร่วมกัน ท่านยกตัวอย่างว่า การทำงานต้องอาศัยสหกรณ์ ทั้งคนที่เป็นสมาชิก และเงินที่นำมาตั้งเป็นกองทุน เพื่อทำกิจกรรมทางสังคม ปัจจุบันท่านมีเครือข่ายเป็นล้านคน มีเงินกองทุน เก็บเงินสมาชิกคนละ 2 รูปี ตอนนี้มีเงินกองทุนเป็นพันล้านรูปี ท่านแนะนำว่า พระไทยและชาวพุทธต้องทำสหกรณ์แบบนี้ จึงจะทำงานได้สำเร็จ
ต่อคำถามที่ว่า ท่านเป็นพระไปอภิปรายคัดค้านเรื่องทุจริต สมาชิกที่ถูกอภิปรายจะไม่โกรธ อาฆาตแค้นท่านหรือ ท่านตอบว่า ท่านทำเพื่อประชาชน เมื่อเจตนาท่านชัดเจน ทุกคนก็นิยมท่าน นับถือท่านที่ไม่เอนเอียงเข้าฝ่ายอธรรม สรุปว่า รธน.ศรีลังลังเปิดโอกาสให้พระสงฆ์ เป็น สส.และลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งได้
เมื่อถามว่า การตอบปัญหาข้อสงสัยพระกับการสังคม การเมือง จะขัดแย้งกันหรือไม่ ท่านอธิบายให้ชาวคณะได้เห็นนิพพาน ฟ้าแจ้งจางปางกันเลย ทำให้นึกถึงบทพระบาลีที่ว่า จรถ ภิกฺขเว….พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย ฉะนี้แล..ภาพที่นำมาลงนี้ เป็นภาพที่คณะของเรา 21 รูป/คน ไปที่วัดของท่านและได้สนทนาธรรมกับท่านแบบพี่น้อง ต้องอนุโมทนา ดร.ประสิทธิ์ บุตรศรี ที่เป็นเจ้าภาพอาราธนา พระสุวรรณเมธาภรณ์ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ และข้าพเจ้า ไปร่วมรายการนี้ด้วย
Leave a Reply