ผบก.ปปป.พร้อมชี้แจง กมธ.ศาสนาฯ ยันจับ“เจ้าคุณแจ๊ค” ทำเพื่อพระพุทธศาสนา-เจ้าตัวอ่วมถูกแจ้งข้อหาเพิ่มอีก 2 คดี ส่วนวัดสุรินทร์โผล่ให้การซัดทอดอีก 1 วัด
วันที่ 23 ก.พ.65 พ.ต.อ.พิทักษ์ วาฤทธิ์ ผกก.2 บก.ปปป.กล่าวถึงความคืบหน้าคดีพระสิทธิวรนายก หรือ “เจ้าคุณแจ๊ค” เจ้าอาวาสวัดเขาทุเรียน ร่วมทุจริตเงินทอนวัด ว่า เตรียมออกหมายเรียกให้ พระสิทธิวรนายก เดินทางมาเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปปป. อีกครั้ง ในช่วงปลายเดือนนี้ เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีก 2 คดี เมื่อรวมกับคดีแรกที่แจ้งข้อกล่าวหาไปแล้วเมื่อวันที่ 18 ก.พ. ที่ผ่านมา เท่ากับว่า พระสิทธิวรนายก จะต้องถูกดำเนินคดีจากทุจริตเงินทอนวัดรวม 3 คดี เพราะต่างกรรมต่างวาระ นอกจากนี้ อาจมีการเชิญพยานบุคคลมาทำการสอบปากคำเพิ่มเติมอีกในบางประเด็น เพื่อขยายผลติดตามหาเงินส่วนที่หายไปอีกกว่า 90 ล้านบาท กลับคืนมา
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับบุคคลที่ทางพนักงานสอบสวนเตรียมจะออกหมายเรียกเชิญตัวมาให้ปากคำนั้น เบื้องต้นประกอบด้วย เจ้าอาวาสวัดต่างๆ ในพื้นที่ จ.นครนายก จำนวน 11 รูป เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แน่ชัดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตหรือไม่ คาดว่า ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ จึงจะมีการออกหมายเรียกอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ ยังได้เตรียมออกหมายเรียกเชิญตัวผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่รายหนึ่งพร้อมกับกลุ่มลูกศิษย์ของพระสิทธิวรนายก มาให้ปากคำ หลังพบหลักฐานความเชื่อมโยงที่ทำให้เชื่อได้ว่าน่าจะเป็นตัวการสำคัญหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการยักย้ายถ่ายเทเงินและทรัพย์สินที่ได้มาจากการทุจริตของ พระสิทธิวรนายก และ นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีต ผอ.พศ.
นอกจากนี้ ทางชุดคลี่คลายคดียังอยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางการเงิน และ พยานหลักฐาน เพื่อขยายผลตรวจสอบให้แน่ขัดว่า นอกจากพระสิทธิวรนายก แล้ว ยังมีพระระดับผู้ใหญ่ในพื้นที่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง หรือรู้เห็นกับการทุจริตเงินทอนวัดในครั้งนี้ด้วยหรือไม่ ซึ่งหากพบก็จะมีการดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายโดยไม่มีข้อยกเว้น
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า อย่างไรก็ตาม หลังกรณี พระสิทธิวรนายก ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. จับกุมจากกรณีทุจริตอมเงินบูรณะซ่อมแซม 12 วัด ในพื้นที่ จ.นครนายก จนกลายเป็นข่าวตามสื่อต่างๆ แล้วนั้น ก็ได้มีตัวแทนของวัดหลายแห่งจากหลายพื้นที่ ที่เคยทำธุรกรรมข้องเกี่ยวกับ พระสิทธิวรนายก นอกเหนือจาก 12 วัด ในพื้นที่ จ.นครนายก ติดต่อเข้าให้ข้อมูลกับทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเพิ่มเติม เพื่อแสดงตัวยืนยันความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งในจำนวนนี้มีวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.สุรินทร์ ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเป็นอย่างมาก
โดยตัวแทนจากวัดดังกล่าวให้ข้อมูลว่า เมื่อปี 55 พระสิทธิวรนายก ได้ประสานเรื่องงบบูรณะซ่อมแซมมาให้กับทางวัด จำนวน 2 ครั้ง โดยครั้งแรก ประมาณเดือน มี.ค. จำนวน 2 ล้านบาท และ ครั้งที่สอง เดือน ธ.ค. โดยครั้งแรกเมื่อได้งบมาแล้ว พระสิทธิวรนายก ก็ได้ให้เจ้าอาวาสวัดดังกล่าวถอนเงินสดทั้งหมดออกมาให้ ก่อนจะถอนเงินกลับคืนให้วัดไปจำนวน 9 แสนบาท ส่วนครั้งที่สอง ได้งบประมาณ 2 ล้านบาท ก็ให้เจ้าอาวาสถอนเงินทั้งหมดมามอบให้ที่วัดเขาทุเรียน แต่ครั้งนี้ทาง พระสิทธิวรนายก กลับเอาทั้งหมด ไม่ได้ถอนเงินคืนกลับไปให้ ซึ่งหลังจากนี้ ทางชุดคลี่คลายคดีกังกล่าวอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง
ส่วน ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 22 ก.พ. พ.ต.อ.พิทักษ์ วาฤทธิ์ ผกก.2 บก.ปปป. กล่าวว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวน บก.ปปป. ได้ออกหมายเรียก พระสิทธิวรนายก หรือ “เจ้าคุณแจ๊ค” รวมถึงเจ้าอาวาสวัดต่างๆในพื้นที่จ.นครนายก ประกอบด้วย วัดสมบูรณ์สามัคคี วัดช้าง วัดท่าซุง วัดหนองโพธิ์ วัดบ้านนุ่ง วัดนาบุญ วัดดงละคร วัดโพธิ์งาม วัดปทุมวงษาวาส วัดธรรมารังสฤษฏ์ วัดบางเตย และเจ้าอาวาสวัดประชาสามัคคี อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ มาเข้าพบอีกครั้ง ในวันที่ 1 มี.ค.ที่จะถึงนี้
พ.ต.อ.พิทักษ์ กล่าวว่า ในส่วนของ พระสิทธิวรนายก นั้น เป็นการเรียกเข้าพบ เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม อีก 2 คดี เพราะเป็นการกระทำผิดต่างกรรมต่างวาระ หลังก่อนหน้านี้แจ้งข้อกล่าวหาไปแล้วในคดีแรก เมื่อ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา ส่วน 11 เจ้าอาวาสวัดต่างๆในพื้นที่ จ.นครนายก เป็นการเรียกมาสอบปากคำในฐานะพยาน เพื่อสอบประเด็นต่างๆที่ยังคงมีข้อสงสัยให้หายเคลือบแคลงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตดังกล่าวด้วยหรือไม่ ขณะที่เจ้าอาวาสวัดประชาสามัคคี ที่มีการเชิญตัวมาสอบปากคำในฐานะพยานครั้งนี้ด้วยนั้น เนื่องจากพบข้อมูลว่า พระสิทธิวรนายก ได้มีการทุจริตลักษณะเดียวกัน หลังมีการให้เจ้าอาวาสวัดดังกล่าวถอนเงินงบบูรณะซ่อมแซมวัดที่ได้รับจากทางสำนักพระพุทธศาสนา จำนวนรวม 4 ล้านบาท มามอบให้กับตัวเองที่วัดเขาทุเรียน ก่อนจะถอนกลับคืนไปให้จำนวน 9 แสนบาท
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับประเด็นการสอบปากคำกลุ่มเจ้าอาวาส 11 วัดในพื้นที่ จ.นครนายก จะมุ่งเน้นไปที่พฤติการณ์รายละเอียดเกี่ยวกับขั้นตอนวิธีการทุจริต รวมถึงห้วงเวลา สถานที่นัดรับส่งมอบเงิน และข้อมูลการติดต่อกันระหว่างพระสิทธิวรนายก กับ กลุ่มเจ้าอาวาสทั้ง 11 วัด นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ขุดคลี่คลายคดีดังกล่าวยังเตรียมเร่งขยายผลตรวจสอบไปตามพื้นที่จังหวัดใกล้เคียงต่างๆเพิ่มเติม เพราะเชื่อว่าพระสิทธิวรนายก น่าจะมีการทุจริตในลักษณะเดียวกันอีกหลายแห่ง หลังแนวทางสืบสวนตรวจสอบพบการกระทำผิดเพิ่มเติมอีก 1 วัด โดยเป็นวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง
ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป.กล่าวว่า กรณี กรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร จะทำการเชิญเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเข้าชี้แจงถึงที่ไปที่มาของปฏิบัติการดังกล่าว ก็พร้อมให้ความร่วมมือและพร้อมจะเข้าไปชี้แจงรายละเอียดทุกขั้นตอน เพราะทุกสิ่งอย่างที่ทำเป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ตามขั้นกฎหมาย และทั้งหมดทั้งมวลก็ทำเพื่อพระพุทธศาสนา
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ /คมชัดลึก
Leave a Reply