วันนี้ 6 ก.พ. 67นายศักดิ์ดา สำเภาเงิน นายอำเภอวังเจ้า จังหวัดตาก เปิดเผยว่า การขับเคลื่อนโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางศาสนา “ขยายผลสู่หมู่บ้านศีลธรรม” ของอำเภอวังเจ้า ซึ่งได้มีการนำหลัก บวร มาใช้บูรณาการร่วมกับคณะสงฆ์ตำบลเชียงทอง และคณะสงฆ์วัดลาดยาวใหม่ จัดกิจกรรมบิณฑบาต เพื่อนำอาหารและสิ่งของจำเป็น ลงพื้นที่แจกของให้กับกลุ่มผู้ด้อยโอกาส ผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง และกลุ่มผู้สูงอายุในพื้นที่ พร้อมจัดกิจกรรมร่วมกันปลูกพืชผักสวนครัว ตลอดจนการจัดกิจกรรมวันเด็กประจำปี 2567 ณ ตำบลเชียงทอง อำเภอวังเจ้า จังหวัดตาก โดยได้รับเมตตาจาก พระครูพินิจธรรมโชติ เจ้าคณะตำบลเชียงทอง/เลขานุการเจ้าคณะอำเภอวังเจ้า/เจ้าอาวาสวัดลาดยาวใหม่ และมี นางสาวชโลชา โรจนวิจิตร ปลัดอำเภอประจำตำบลเชียงทอง ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดตาก สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดตาก เจ้าหน้าที่ปกครอง สมาชิก อส.อ.วังเจ้า ที่ 10 อสม. คณะกรรมการหมู่บ้าน และพี่น้องประชาชน เข้าร่วมกิจกรรม
นายศักดิ์ดา สำเภาเงิน นายอำเภอวังเจ้า กล่าวว่า อำเภอวังเจ้าให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา “หมู่บ้านรักษาศีล 5” สู่การเป็น “หมู่บ้านศีลธรรม” อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งส่งเสริมการบูรณาการกิจการงานคณะสงฆ์และการพัฒนาหมู่บ้านตามโครงการหมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village) โดยได้ร่วมกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องและภาคีเครือข่ายทั้ง 7 เครือข่าย ตลอดจนถึงคณะสงฆ์จัดกิจกรรมส่งเสริมให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ด้วยการนำของผู้นำชุมชน ตามหลักการมีส่วนร่วมของชุมชน และการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และหลักธรรมทางพระพุทธศาสนามาประยุกต์ใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำให้ทุกคนในหมู่บ้านได้อยู่ร่วมกันอย่างมีศีลธรรมและจริยธรรมอันดี ประพฤติปฏิบัติจนเป็นวิถีชีวิต เพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันและสร้างความมั่นคงในระดับชุมชน/หมู่บ้านให้เข้มแข็ง อยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างมีความสุข และสามารถแก้ปัญหาสังคมได้อย่างยั่งยืน
“การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อแบ่งปันสิ่งที่ดีไปยังทุกพื้นที่ของอำเภอวังเจ้า ตามหลักบันได 9 ขั้นสู่ความพอเพียง โดยคณะสงฆ์ได้นำของที่ได้จากการบิณฑบาต ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม และเครื่องอุปโภคบริโภค ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากพี่น้องประชาชน นำไปส่งต่อให้กับกลุ่มผู้ด้อยโอกาส ผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง และผู้สูงอายุในพื้นที่ นอกจากนี้คณะสงฆ์วัดลาดยาวใหม่ ได้ร่วมกันปลูกผักสวนครัว อาทิ ผักบุ้ง ผักคะน้า ผักกวางตุ้ง ฯลฯ ตามพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” ทำให้ชาวบ้านสามารถเข้ามาเก็บผักไปประกอบอาหาร หรือรับประทานสด ๆ ได้อย่างปลอดภัย ถือเป็นการสร้างความมั่นคงทางอาหาร และลดรายจ่าย ประหยัดค่าเดินทางไปตลาด นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริมการอนุรักษ์และจัดการทรัพยากรดินและน้ำอย่างยั่งยืน ตามที่กระทรวงมหาดไทยประกาศเจตนารมณ์ในการขับเคลื่อนกิจกรรมวันดินโลก (World Soil Day) ภายใต้แนวคิด ดินดี น้ำดี ชีวีมีสุขอย่างยั่งยืน อีกทั้งที่ผ่านมายังมีการจัดกิจกรรมวันเด็กประจำปี 2567 คณะสงฆ์ร่วมกันประกอบอาหาร เช่น ข้าวผัดไข่ และจัดถุงขนมแจกเด็ก ๆ และชาวบ้าน ในหมู่บ้านลาดยาว ซึ่งเป็นการบูรณาการตามหลักการทรงงานศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย และจังหวัดตาก เป็นผู้นำในการขับเคลื่อนอำเภอบำบัดทุกข์ บำรุงสุข แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน แสดงให้เห็นถึงความสำคัญและคุณค่าของวัฒนธรรมประเพณีไทยในการแบ่งปันเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ซึ่ง พลัง “บวร” คือ การร่วมกันของบ้าน วัด ราชการ หรือโรงเรียน จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยสร้างความผาสุกให้กับประชาชน ทำให้ทุกคนได้มีโอกาสในการยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นและสามารถพึ่งพาตนเองได้ในอนาคต” นายศักดิ์ดาฯ กล่าวเพิ่มเติม
นายศักดิ์ดา สำเภาเงิน นายอำเภอวังเจ้า กล่าวในช่วงท้ายว่า การหลอมรวมพลังของภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางศาสนา “ขยายผลสู่ หมู่บ้านศีลธรรม” จะช่วยสร้างความรักความสามัคคี ช่วยเหลือ เกื้อกูลกัน ให้เกิดขึ้นในครัวเรือน ชุมชน สังคม โดยยึดประโยชน์ของส่วนรวมเป็นที่ตั้ง บูรณาการความร่วมมือเพื่อพัฒนาสังคมไทย และขยายผลไปช่วยสังคมโลก ให้มีความสุขอย่างยั่งยืน โดยส่งเสริมและสนับสนุนให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันเป็นอย่างดีทั้งบ้าน วัด โรงเรียน หน่วยงานราชการ และองค์กรเอกชน เสริมสร้างความอบอุ่นให้สมาชิกในหมู่บ้าน/ชุมชน เพื่อให้เกิดความสงบสุข ร่มเย็น เป็นสุข และได้ร่วมรับประโยชน์ คือ ความสุข ความอิ่มเอมใจ ไปด้วยกัน เพื่อนำไปสู่ “หมู่บ้านศีลธรรม” ต่อยอดการเป็นหมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village) เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อพสกนิกรไทยจะได้ร่วมกันแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยการสืบสานพระราชปณิธานและศาสตร์พระราชา จับมือให้ทุกภาคส่วนเข้ามาร่วมด้วยช่วยกันขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) และภารกิจในการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ของกระทรวงมหาดไทย ด้วยการทำให้ประชาชนทุกช่วงวัยในทุกพื้นที่ของอำเภอวังเจ้ามีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป
Leave a Reply