วันที่ 19 มินายน 2568 นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า ตามที่ทางพศ.ได้มีการแยกภารกิจการดำเนินงานเกี่ยวกับศาสนสมบัติวัด ออกจากสำนักงานศาสนสมบัติ เพื่อตั้งขึ้นเป็นกองที่ดูแลศาสนสมบัติวัดโดยเฉพาะ หลังจากเกิดกรณีอดีตพระธรรมวชิรานุวัตร หรือ เจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และอดีตเจ้าคณะภาค 14 ยักยอกเงินวัด นั้น ขณะนี้การดำเนินงานของกองศาสนสมบัติวัด ได้เริ่มดำเนินการแล้ว เบื้องต้นจะยังอยู่ในการดูแลของสำนักงานศาสนสมบัติก่อน เพื่อรอขั้นตอนในการจัดทำโครงสร้างเสนอไปยังสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) และคาดว่าภายในเดือน ก.ค.น่าจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อออกเป็นกฎกระทรวงต่อไป
ผอ.พศ.กล่าวต่อไปว่า กองศาสนสมบัติวัด จะมีบทบาทหน้าที่ในการดูแลผลประโยชน์ของวัด เพื่อไม่ให้ผลประโยชน์ของวัดรั่วไหลไปสู่ผู้ที่ไม่หวังดี หรือพวกเหลือบจากนอกวัด ที่จะเข้ามาหาผลประโยชน์ภายในวัด รวมทั้งจะเข้าไปพิจารณาแนวทาง ออกแบบ ให้คำแนะนำ การรายงานบัญชีของวัด ซึ่งจะมีมาตรการให้ทุกวัดต้องรายงานบัญชีธนาคารทุกบัญชีของแต่ละวัดมาที่กองศาสนสมบัติวัด นอกจากนี้จะต้องเข้าไปดูในเรื่องการแต่งตั้งไวยาวัจกรของแต่ละวัดด้วย เพราะไวยาวัจกร ถือเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย ไม่ใช่วัดจะไปแต่งตั้งใครมาก็ได้ จะต้องดูคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสม
นอกจากนี้กองศาสนสมบัติวัด จะต้องนำแนวทางที่คณะอนุกรรมการวางแนวทางในการจัดการทรัพย์สินของวัด ซึ่งมีสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ประธานฝ่ายสาธารณูปการของมส.เป็นประธานคณะอนุกรรมการ ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ ที่ปรึกษามส. เป็นรองประธาน ซึ่งคาดว่าจะมีการประชุมในเร็ว ๆ นี้ มาดำเนินการด้วย
สำหรับ “กองศาสนสมบัติวัด” ตั้งตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2568 พร้อมกับ กองกิจการในสมเด็จพระสังฆราชและกิจการสนองพระราชดำริ , กองกฎหมาย โดยมีรายละเอียดภารกิจดังนี้
กองส่งเสริมการจัดการศาสนสมบัติของวัด กำหนดภารกิจไว้ 8 ประการ เช่น ศึกษา วิเคราะห์ วางระบบ กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการปฎิบัติในการจัดประโยชน์และพัฒนารายได้ของวัดให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ศึกษาวิเคราะห์ วางระบบ กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการจัดการทรัพย์สินระบบการเงินและบัญชีวัด ดำเนินการจัดเก็บรายได้และรักษาผลประโยชน์ของศาสนสมบัติกลางของวัดที่มีพระสงฆ์ ตามที่ได้รับมอบหมายอำนาจให้ดำเนินการแทนวัด เป็นต้น
กองกิจการ ในสมเด็จพระสังฆราชและกิจการสนองพระราชดำริ ไว้ 11 ประการ เช่น ภารกิจสนองงานตามพระบัญชาและรับเสด็จสมเด็จพระสังฆราช ในการปฎิบัติศาสนกิจของสมเด็จพระสังฆราช, รับสนองงานของคณะสงฆ์จีนนิกายแห่งประเทศไทย และคณะสงฆ์อนัมนิกายแห่งประเทศไทย ซึ่งอยู่ในปกครองบังคับบัญชาของสมเด็จพระสังฆราช ,สนองงานตามพระราชดำริโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา รวมทั้งศึกษาวิเคราะห์ วางแผนงาน โครงการ และเสนอแนะแนวทางการดำเนินงาน และการจัดสรรเงินงบประมาณเพื่อดำเนินงานตามโครงการ รวมทั้งพิจารณาและดำเนินการในกรณีที่มีหน่วยงานต่าง ๆ และบุคคลทั่วไปขอเข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราช เป็นต้น
กองกฎหมาย กำหนดหน้าที่ภารกิจ 8 ประการ เช่น ดำเนินการเกี่ยวกับระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง งานนิติกรรมและสัญญา ดำเนินคดีทางแพ่ง อาญา คดีปกครอง และงานคดีอื่นที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นศูนย์กลางข้อมูลสารสนเทศด้านกฎหมาย และให้คำปรึกษา แนะนำด้านกฎหมายและช่วยเหลือด้านกฎหมายแก่คณะสงฆ์ เป็นต้น และ
รายละเอียดอ่านได้ด้านล่างนี้
คลิกอ่าน..กองกิจการในสมเด็จพระสังฆราชกองนิติการกองศาสนสมบัติของวัด
คลิกอ่าน..กองนิติการ
คลิกอ่าน..กองศาสนสมบัติของวัด
Post navigation
Previous post
ประกาศยก “วัดราษฎร์” ขึ้นเป็น “พระอารามหลวง” จำนวน 12 วัด
Next post
ตั้ง “คนวัด” เป็นคณะทำงานแก้ไขปัญหาที่ดินวัด-ที่พักสงฆ์ทั่วประเทศ
Posted in:
More Articles
By the same author
Related Articles
From the same category
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ยอมรับ
จำนวนผู้ชม :
1,478
Leave a Reply
Facebook Comments